China III

จีน => จาก Guazhou (กัวจู) ไปยาวถึง Zhangye (จ๋างเย่อ)

คืนท่ี “หยงฉาง” และลูกชายแวะมาบ๊ายบายเรา เขาถามว่าเรามีท่ีอยู่ท่ีกัวจูหรือยัง? เราคิดว่าอาจจะไม่พักท่ีเมืองนั้นเพราะรถทัวร์จะถึงตอนบ่ายโมง แต่เขาเขียนในกูเกิ้ลว่าเขาจองให้เรียบร้อยแล้ว เป็นโรงแรมของเพื่อนเขา ถ้าอยากอยู่เขียนข้อความไปบอกเขา และยังบอกด้วยว่า “free of charge” เอ่อ…หมายความว่าอยู่แบบไม่ต้องจ่ายตังค์เลยงั้ยรึ? เป็นไปได้รึ? เขาเขียนภาษาจีนยาว ๆ ในกูเกิ้ลช่วยแปล และบอกว่าถ้าไปถึงโรงแรมให้เอาโน๊ตนั้นแสดงให้พนักงานดู แต่ตอนนั้นเราตั้งใจอย่างมากท่ีจะปั่นหลังจากท่ีมาถึงเมืองกัวจูเลยไม่ค่อยได้ใส่ใจ

นี่คือโน๊ตประกาศิตท่ี "หยงฉาง" เขียนไว้ให้

นี่คือโน๊ตประกาศิตท่ี “หยงฉาง” เขียนไว้ให้

หลังจากท่ีร่ำลากับ “หยงฉาง” รถทัวร์ก็ยังไม่ออกจนกระทั่ง 20 นาทีผ่านไป วิวระหว่างทางดูไม่น่าสนใจ น่าเบื่อมาก เลยนั่งเขียนบล๊อคบนรถทัวร์ มาถึงท่ีจุดพักรถรถทัวร์จอดให้เข้าห้องน้ำ แต่ไม่มีใครไปท่ีห้องน้ำ คงเดากันออกนะค่ะ เขาทำธุระกันรอบ ๆ ห้องน้ำนั่นแหละค่ะ ดีท่ีให้โจคิมลงไปทำธุระก่อน เพราะรถไหลไปหาท่ีจอดข้างหน้าซ่ึงมีมุมมิดชิดกว่าหน่อย 🙂 เรามาถึงเมืองกัวจูสายกว่าท่ีเขาเคยบอกไว้ เกือบสามโมงแทนท่ีจะเป็นบ่ายโมง หลังจากท่ีเจอบาเทคท่ีโรงแรมท่ีเขานอนเมื่อคืน เราตัดสินใจติดต่อกับ “หยงฉาง” เกี่ยวกับโรงแรมท่ีเพื่อนเขาเป็นเจ้าของ หากันอยู่นาน ถามคนแรกบอกให้เลี้ยวขวาท่ีส่ีแยก เลี้ยวไปหามีไม่ ถามอีกคนบอกให้เลี้ยวกลับไปไม่ค่อยอยากเชื่อเลยต้องถามอีกหลาย ๆ คน รวมทั้ง “หยงฉาง” และน้องสาวของเขาก็ช่วยโดยการโทรมาคุยทางโทรศัพท์ เพราะเขาพูดภาษาอังกฤษได้ ใช้เวลาอยู่นานกว่าจะเจอ พอเจอก็ไม่แน่ใจว่าข้อความท่ีหยงฉางเขียนไว้จะใช้ได้หรือเปล่า เพราะโรงแรมนั้นระดับ 4 ดาว ดูหรูและใหญ่โตมากแล้วเขาจะให้เราอยู่ฟรี ๆ รึ? มาถึงแล้วก็ต้องลองดูกันล่ะ โห…ใช้ได้ เราไม่ต้องแนะนำตัวเลย เขาจัดการเรียบร้อย หยิบกุญแจห้องมาให้ตรงหน้าเลย และพอบอกว่ามีเพื่อนมาด้วยอีกหนึ่งคน เขาก็หันไปคุยกัน แล้วก็ยื่นกุญแจมาให้อีกอัน รู้สึกเกรงใจเป็นอย่างยิ่ง พอเข้ามาได้สักพักก็มีพนักงานโรงแรมมาเคาะประตูพร้อมยื่นถาดผักและผลไม้มาให้ โห…เหมือนแขกวีไอพีเลย หลังจากนั้นเราออกไปหาตลาดกินมื้อเย็น ไปเจอท่ีหนึ่งคล้ายศูนย์อาหารบ้านเราเลย มีโต๊ะเก้าอี้อยู่ตรงกลาง ร้านอาหารอยู่ข้าง ๆ ตื่นตาตื่นใจไปหน่อยเลยไม่ได้ถ่ายรูปไว้เลย อาหารทางนี้ยังไม่ค่อยมันเท่าไหร่ ทำให้นึกถึงอาหารไทยบ้านเรา

ภาพผักและผลไม้ท่ีทางโรงแรมจัดมาให้ ตอนแรกนึกว่าให้เราสองห้องเท่านั้น แต่ไม่ใช่ค่ะ เขาไปเคาะทุกประตูเลย พาลนึกไปว่าตัวเองเป็นแขกวีไอพี

ภาพผักและผลไม้ท่ีทางโรงแรมจัดมาให้ ตอนแรกนึกว่าให้เราสองห้องเท่านั้น แต่ไม่ใช่ค่ะ เขาไปเคาะทุกประตูเลย พาลนึกไปว่าตัวเองเป็นแขกวีไอพี

ห้องโรงแรมท่ีเพื่อนหยงฉางเป็นเจ้าของ และให้เรานอนโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใด ๆ สุดยอด

ห้องโรงแรมท่ีเพื่อนหยงฉางเป็นเจ้าของ และให้เรานอนโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใด ๆ สุดยอด

พนักงานสาวออกมาส่งถึงหน้าประตู

พนักงานสาวออกมาส่งถึงหน้าประตู

ตอนเดินไปกินอาหารเช้า ท่ีเราไม่แน่ใจว่าจะรวมอยู่ด้วยแต่ก็ได้กินกัน เป็นอาหารเช้าท่ีดีท่ีสุดตั้งแต่อยู่ท่ีเมืองจีนนี่ เราเพิ่งมาเห็นว่ามีสวนท่ีน่านั่งอยู่ด้านในโรงแรม อยากอยู่ต่ออีกสักวันจะนั่งพักผ่อนให้สบายตรงนั้นแหละ เช้ามาแทบไม่อยากเช็คเอาท์ไป แต่การเดินทางต้องดำเนินต่อไป เห็นวิวข้างทางแล้วทำให้คิดว่าดีแล้วท่ีนั่งรถบัสย่นระยะทางไปหน่อย เพราะยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงดูน่าเบื่ออยู่เช่นเดิม เราไปถึงท่ีเมือง Qiaowan เข้าทางท่ีมีคนเปิดไว้ข้างทางด่วน ตอนแรกหาอะไรไม่เจอ ตำรวจบอกว่าร้านอยู่ด้านข้างพิพิธภัณฑ์ มันดูเหมือนโรงอาหารมากกว่า กินท่ีนี่มีเติมได้ด้วยเป็นถาดหลุม เรานั่งกินท่ีพื้นข้างนอกเพราะไม่อยากทิ้งจักรยานไว้ นั่งกินกันไป ตบยุงกันไป เอ…ไม่ใช่สิแค่เวชเท่านั้นท่ีต้องตบต้องคันยิก ๆ เพราะมันไม่ไปแตะโจคิมเลย มีอะไรดีแน่ ๆ 🙂 ยุงไม่ได้แค่ตอมเราเท่านั้น หันไปท่ีกระเป๋าเห็นตอมกันให้พรึ่บไปหมด ด้านนอกมีนักท่องเท่ียวจีนจากรถบัสทั้ง 3 คันมามุงดูเราเหมือนเราเป็นตัวประหลาด ชักเริ่มชินละ อยากมองก็มองไป เรากินและขอเขาอาบน้ำเพราะคิดว่าคืนนี้คงได้กางเต้นท์นอนแน่ รอจนบาเทคมา เขากินท่ีนี่ด้วยเลย ปั่นออกจากโรงอาหารง่าย ๆ นั่นท้องฟ้าเริ่มมืดละ หันไปเห็นปั้มน้ำมันฝั่งตรงข้ามเลยปั่นเข้าไปถามเขาดู ยุงเพียบเลย เขียนคุยกันไปมือก็โบกปัดยุงไปด้วย กัดจนหน้าเป็นตุ่มเล็กตุ่มน้อยไปหมด เพราะแค่ท่ีหน้าท่ียุงสามารถมาเจาะเลือดเราได้ เขาว่านอนตรงนั้นไม่ต่อยปลอดภัยเพราะเป็นท่ีท่ีเขามาเติมก๊าซธรรมชาติกัน เขาพาเราเดินกลับไปท่ีร้านอาหารถามให้เราแต่ไม่ได้ เดินเลยไปท่ีพิพิธภัณฑ์คุยกันนิดหน่อย เขาขอให้เราช่วยออกค่าใช้จ่ายนิดหน่อยเข้าพิพิธภัณฑ์ โอเค..เราได้นอนกันคนละห้อง เป็นห้องง่าย ๆ มีเตียงกับโต๊ะตัวหนึ่ง เปิดประตูแล้วต้องรีบปิด เพราะไม่อย่างนั้นมีหวังได้แขกท่ีไม่ได้รับเชิญมานอนด้วยแน่

จีนมุง เวชเข้าไปซื้อและเอาออกมานั่งกินข้างนอก กระป๋องข้างหน้าโจคิมคือกระป๋องเบียร์นะค่ะ แต่มันดูเหมือนให้คนมาโยนตังค์ให้เลยเนอะ

จีนมุง เวชเข้าไปซื้อและเอาออกมานั่งกินข้างนอก กระป๋องข้างหน้าโจคิมคือกระป๋องเบียร์นะค่ะ แต่มันดูเหมือนให้คนมาโยนตังค์ให้เลยเนอะ

ธรรมชาติแปลกตาระหว่างทางเข้าเมืองเจี๊ยวหวัน Giaowan

ธรรมชาติแปลกตาระหว่างทางเข้าเมืองเจี๊ยวหวัน Giaowan

ถ่ายกับไกด์พิพิธภัณฑ์ พอคุยกันรู้เรื่องหน่อยนึง

ถ่ายกับไกด์พิพิธภัณฑ์ พอคุยกันรู้เรื่องหน่อยนึง

ห้องนอนง่าย ๆ 3 คน 100 หยวนห้องนี้เป็นห้องเรา เวชนอนพื้นเพราะไม่ค่อยมีท่ี ตัวสั้นเลยต้องเสียสละ ;-)

ห้องนอนง่าย ๆ 3 คน 100 หยวนห้องนี้เป็นห้องเรา เวชนอนพื้นเพราะไม่ค่อยมีท่ี ตัวสั้นเลยต้องเสียสละ 😉

เช้าวันรุ่งขึ้นเดินไปดูด้านหลังของพิพิธภัณฑ์ เป็นสถานท่ีเมืองเก่า

เช้าวันรุ่งขึ้นเดินไปดูด้านหลังของพิพิธภัณฑ์ เป็นสถานท่ีเมืองเก่า

เห็นหนองน้ำปุ๊บแล้วไม่ต้องสงสัยว่าทำไมยุงถึงได้เยอะขนาดนั้น

เห็นหนองน้ำปุ๊บแล้วไม่ต้องสงสัยว่าทำไมยุงถึงได้เยอะขนาดนั้น

เขาว่าตรงนี้เคยเป็รราชวังเก่า

เขาว่าตรงนี้เคยเป็รราชวังเก่า

ตามจุดจอดพักรถส่วนใหญ่จะมีน้านอาหารและซุปเปอร์มาเกต มีร้านอาหารนี้และอีกท่ีหน่ึงท่ีเราผ่านมา เขาให้เราจ่ายตังค์ใส่บัตรก่อนหมือนท่ีเมืองไทยเลย รู้สึกคุ้นเคย อิอิ อีกร้านหนึ่งไปจ่ายท่ีเคาน์เตอร์ ได้ใบเสร็จมาก็เอาไปให้คนตักอาหาร เขาจะหยิบถาดยื่นมาแล้วเราก็ชี้ ๆ ว่าจะเอาอะไรบ้าง ถาดหลุมเหมือนกัน แต่ท่ีนี่ไม่กล้าเข้าไปเติม ไปเติมแต่น้ำแกงจืด มีแต่น้ำจริง ๆ หลังจากนั้นเราต้องปั่นไปอีก ประมาณ 70 โลได้ เพื่อไปให้ถึงจุดจอดรถถัดไป นี่คือข้อเสียอีกข้อหนึ่งท่ีปั่นอยู่บนทางด่วนนอกจากจะทำให้ยางแบนบ่อย ๆ แล้ว เรายังต้องพึ่งจุดจอดรถเพื่อเติมน้ำเติมพลัง ตามจุดพวกนี้มักมีบริการร้านอาหารเครื่องดื่ม ซุปเปอร์มาเกตเหมือนกันทั้งสองฝั่งถนน แต่ฝั่งท่ีเราปั่นมาถึง มันดูเงียบ ๆ ไม่มีรถไม่มีคน มีคนแก่หนึ่งคนนั่งอยู่หน้าห้องน้ำ ทักทายแกกี่ครั้ง ๆ แกก็ไม่ทักกลับ ไม่เปงลาย ท่าทางอารมณ์่บ่จอย เราอุตส่าห์มาถึงจุดจอดรถท่ีสองนี่ก็ตั้งใจว่าจะนอนท่ีนั่น แต่ฝั่งท่ีเราจอดไม่มีน้ำ โจคิมลองเดินลอดอุโมงค์ไปเช็คอีกฝั่ง ปรากฎว่ามีโรงแรมและน้ำท่ีจำกัด ในห้องมีแค่เตียง ห้องน้ำท่ีไม่มีน้ำเป็นห้องน้ำรวมอยู่ด้านนอก เจ้าของเขาน่ารักนะ อุตส่าห์ลองน้ำใส่กระถังให้ เวชอาบก่อนได้น้ำอุ่นเพราะน้ำร้อนหมดก่อนท่ีจะอาบเสร็จเสียอีกนี่ขนาดอาบอย่างประหยัดแล้ว คิดว่าอาบได้สะอาดหมดจดแล้วนะ ยุงยังมาตอม นอนไม่ได้เลยทั้งคืน ใส่แจ๊กเก๊ตมันมากัดท่ีมือ พอเอามือไปแอบในถุงนอนผ้าใหมบาง ๆ มันกัดทะลุเลยทั้งท่ีขาและท่ีมือ หงุดหงิดมาก เช้าขึ้นมา “บาเทค” ก็โดนกัดเหมือนกัน ถ้าได้รู้จะได้คุยกันแล้วลุกขึ้นมาจัดการกับเจ้ายุงวายร้าย โธ่..

ร้านนี้ดีท่ีสุดเพราะสามารถมองเห็นจักรยานจากโต๊ะท่ีเรานั่ง อาหารก็อร่อย แต่อยู่ตามทางด่วนเลยแพงไปนิด

ร้านนี้ดีท่ีสุดเพราะสามารถมองเห็นจักรยานจากโต๊ะท่ีเรานั่ง อาหารก็อร่อย แต่อยู่ตามทางด่วนเลยแพงไปนิด

ร้านนี้หามุมท่ีจะสามารถเห็นจักรยานมิได้เลย เราเลยต้องออกมานั่งกินข้างนอก โดยก่อนหน้านั้นก็มีจีนมามุงดู

ร้านนี้หามุมท่ีจะสามารถเห็นจักรยานมิได้เลย เราเลยต้องออกมานั่งกินข้างนอก โดยก่อนหน้านั้นก็มีจีนมามุงดู

บาเทคเพื่อนเก่ามาร่วมปั่นกันอีกครั้งหนึ่ง หลังจากแยกกันท่ีซาร์มาคัน ดีใจได้เจอเพื่อนท่ีคุ้นเคย

บาเทคเพื่อนเก่ามาร่วมปั่นกันอีกครั้งหนึ่ง หลังจากแยกกันท่ีซาร์มาคัน ดีใจได้เจอเพื่อนท่ีคุ้นเคย

เช้าออกมาเย็นนิดหน่อย ตามลม ถนนเลียบทะเลทรายโกบี เห็นเขาท่ีมีหิมะปกคลุม ข้างทางเริ่มเขียวชอุ่มไปด้วยไร่นาและสวนดอกไม้ บ่าย ๆ ฝนเริ่มตกสักประมาณชม.นึง เปียกแต่ก็ทันแห้งก่อนเข้าเมือง วันนี้รู้สึกเหนื่อยมาก จนกระทั่งเห็นสวนสาธารณะตะโกนบอกให้โจคิมกางเต้นท์เลย กดบันไดจักรยานไม่ลงเลย อ่ะ..อีกนิดนึง ทนเอาหน่อย 2 กม.เข้ามาถึงในตัวเมือง เห็นป้ายเขียนว่าโรงแรมอยู่ฝั่งตรงข้าม เดินเข้าไปถาม เขาบอกเลยว่ารับเราไม่ได้ แต่เดี๋ยวลองโทรหาตำรวจท้องถิ่นให้ เขาให้เราเอาจักรยานและกระเป๋าไปเก็บ แต่เราต้องรอบาเทคก่อน เลยไปอาบน้ำ ซักผ้ารอ พอบาเทคมาเขาขับรถพาเราไปท่ีสถานีตำรวจเพื่อไปลงทะเบียน แปลกตรงท่ีสถานีตำรวจอยู่ค่อนข้างไกลออกไปจากใจกลางเมือง เรากลับมากินข้าว ยังไม่ทันเสร็จดี ฝนเริ่มลงเม็ดแล้วมันก็ตกทั้งคืนเลย อากาศเย็นลงทันที เพราะตรงนั้นท่ีคิงชุย (Qingshui) สูงประมาณ 1600 เมตรจากระดับน้ำทะเล

วิวหลังจากท่ีเราปั่นออกจากเมืองคิงชุย

วิวหลังจากท่ีเราปั่นออกจากเมืองคิงชุย

ถ่ายจากหน้าต่างห้องพักท่ีคิงชุย

ถ่ายจากหน้าต่างห้องพักท่ีคิงชุย

ช่วงนี้เราปั่นเลียบระหว่างทะเลทรายทาคลามาคันกับโกบี ดีใจ วันนี้จะเป็นวันสุดท้ายท่ีจะอยู่ในทะเลทรายแล้ว เยส!

ช่วงนี้เราปั่นเลียบระหว่างทะเลทรายทาคลามาคันกับโกบี ดีใจ วันนี้จะเป็นวันสุดท้ายท่ีจะอยู่ในทะเลทรายแล้ว เยส!

มีสวนดอกไม้และปลูกหัวหอมอยู่ข้าง ๆ เขากำลังเก็บเกี่ยวใส่ถุงกันอยู่ เริ่มมีสีสรรหน่อยช่วงนี้

มีสวนดอกไม้และปลูกหัวหอมอยู่ข้าง ๆ เขากำลังเก็บเกี่ยวใส่ถุงกันอยู่ เริ่มมีสีสรรหน่อยช่วงนี้

ท่ีจุดจอดพักรถท่ีเก๋าไท่ (Gaotai) คือจุดสุดท้ายท่ีเราจะใช้บริการ เพราะเราจะพยายามไม่ขึ้นทางด่วนและตำรวจคงไม่ให้ขึ้นด้วยแหละ :)

ท่ีจุดจอดพักรถท่ีเก๋าไท่ (Gaotai) คือจุดสุดท้ายท่ีเราจะใช้บริการ เพราะเราจะพยายามไม่ขึ้นทางด่วนและตำรวจคงไม่ให้ขึ้นด้วยแหละ 🙂

วิวระหว่างทางท่ีปั่นออกมาจากเมืองกัวจู

วิวระหว่างทางท่ีปั่นเข้าเมือจ๋างเย่อ

ปั่นสบาย ๆ บนทางอีกฝั่งหนึ่งท่ีเขาปิดซ่อมแซมถนน

ปั่นสบาย ๆ บนทางอีกฝั่งหนึ่งท่ีเขาปิดซ่อมแซมถนน

วันท่ีปั่นเข้าเมืองจ๋างเย่อรู้สึกสบาย เพราะตามลมแถมทางลาดลงด้วย มีขึ้นบ้างนิดหน่อยแต่ปั่นสบาย พอมาถึงทางเข้าเมืองโรงแรมเล็ก ๆ ท่ีเราคิดว่าจะพักนั้นไม่มีอยู่ในแผนท่ีของกูเกิ้ล ขี้เกียจหา หันไปเห็นตำรวจพอดีเลยถาม เขาพยายามอธิบายว่าให้เลี้ยวซ้ายเลี้ยวขวา เราก็พยายามเข้าใจเหมือนกัน แต่พอถามซ้ำอีกทีคุณตำรวจเลยบอกว่า “ไป ตามฉันมา” แล้วเราก็เดินกันไปจนกระทั่งมาถึงหน้าโรงแรมเล็ก ๆ นั่นเลย น่ารักจังดูแลแม้แต่พลเมืองต่างชาติหน้าหมวย 😉

โจคิมเพลินปั่นเร็วไปหน่อย ตำรวจโบกให้จอดเลย ซ่าเกินเหตุเดี๋ยวได้โดนปรับหรอก แต่ก็รอดมาได้ ตำรวจจีนน่ารัก แค่โบกเฉย ๆ ;-)

โจคิมเพลินปั่นเร็วไปหน่อย ตำรวจโบกให้จอดเลย ซ่าเกินเหตุเดี๋ยวได้โดนปรับหรอก แต่ก็รอดมาได้ ตำรวจจีนน่ารัก แค่โบกเฉย ๆ 😉

เช๊คอินอาบน้ำซักผ้าเรียบร้อยแต่ยังไม่เห็นเงาของบาเทคเลย เขาปั่นช้าค่อย ๆ ไป ทำไปทำมา อ้าว..ฝนตกลมแรง เสร็จแน่บาเทคจะรอดจากฝนมั้ยเนี่ย สักพักเราได้ข้อความจากเขา บอกว่า “หาโรงแรมไม่เจอ” เขียนกันไปเขียนกันมา เวชตัดสินใจออกไปยืนรอ อึ๋ย..หนาวอ่ะ ยืนได้สัก 15 นาที กลับขึ้นไปเอาเสื้อแจ็กเกตมาใส่ แต่ดันลืมเปลี่ยนรองเท้าใส่รองเท้าฟองน้ำลงไป ขี้เกียจขึ้นมาเปลี่ยนเนอะและคิดว่าคงไม่ใช้เวลานาน ได้ข้อความอีกอันบอกว่า “ยืนรออยู่ท่ีหอคอย คาดว่าน่าจะเป็นอันท่ีเลื่องชื่อของเมืองนี้” อ้าว..เราก็ยืนอยู่ท่ีหอคอยทำไมไม่เจอ เลยเดินไปถามน้องผู้หญิง 2 คน ตอนแรกเขาก็ไม่ค่อยพูดภาษาอังกฤษเท่าไหร่ นาน ๆ ไปก็เริ่มพูดมากขึ้น เพราะเขาพาเวชเดินไปโน่นรู้สึกไกลมาก แถมทำท่าทำทางว่าไม่่ค่อยแน่ใจอีก เวชก็เป็นประเภทท่ีว่าหาทางกลับบ้านไม่ค่อยถูกอยู่ด้วย สองคนคุยกันไปคุยกันมาแล้วหันมาบอกเราว่านั่งแท๊กซี่ไปเถอะ จ้าก…ข้าพเจ้าไม่มีตังค์ติดตัวออกมาสักแดงเดียว เขาบอกว่าไม่เป็นไรฉันมี เกรงใจอ่ะ เขาพยายามช่วยอย่างมาก พอไปถึงท่ีท่ีคิดว่าบาเทคน่าจะอยู่ตรงนั้น ทั้งสองคนถามว่าบาเทคหน้าตาเป็นอย่างไร ผิวสีอะไร สูงแค่ไหน เพราะเขาจะช่วยมองหา สองคนเดินควงแขนขนาบข้างเวชเลยเพราะเราเริ่มสั่น เดินหาได้สักพัก ได้ข้อความจากบาเทคว่า “อยู่ท่ีโรงแรมแล้ว” ฮึ่ม… เราทั้งสามคนฟุดฟิดขึ้นมาทันที อ้าว..เดินกลับ

น้องสองคนนี้ดูหน้าตาเด็กมากแต่เขาเริ่มมหาลัยปีหนึ่งแล้วอ่ะ ;-)

น้องสองคนนี้ดูหน้าตาเด็กมากแต่เขาเริ่มมหาลัยปีหนึ่งแล้วอ่ะ 😉

หิวแล้วเลยออกไปหาอะไรกินกันใกล้ ๆ ท่ีพักนั่นแหละ อร่อยมาก

หิวแล้วเลยออกไปหาอะไรกินกันใกล้ ๆ ท่ีพักนั่นแหละ อร่อยมาก

จีน => จาก Zhangye (จ๋างเย่อ) – Minle (หมินเล่อ) – Menyuan (มึนหยวน) – Minhe (หมินเฮอ)

ท่ีจ๋างเย่อเราต้องจัดการเรื่องซิมโทรศัพท์เพราะตังค์ในซิมหมด ออกไปเดินหา China Unicom พอมาถึงก็คุยกันไม่รู้เรื่องเพราะเราไม่มีเน็ตแล้วไม่สามารถคุยกันผ่านกูเกิ้ลได้ กว่าเขาจะเข้าใจว่าเราต้องการอะไรร้านจะปิดแถมเติมไม่ได้อีกเพราะอยู่คนละมณฑลซิมแรกซื้อท่ีมณฑลซินเจียงแต่ตอนนี้เราอยู่มณฑลจิงไห่ โอ๊ะ..ข้าพเจ้างง กฎเกณฑ์อะไรของเขานั่น แล้วเราจะทำอย่างไร??? กลับท่ีพักด้วยความหงุดหงิด ขนาดเวชใจเย็นมากแล้วนะยังรู้สึกปวดตับอยากจะกรี้ดดดดดัง ๆ ๆ แต่รู้ว่าไม่มีประโยชน์ วันรุ่งขึ้นออกไปจัดการเรื่องซิม เราตัดสินใจว่าถ้าอย่างนั้นทิ้งซิมเก่าเปลี่ยนยี่ห้อเป็น China Mobile แต่ก็ยังมีปัญหาคือพนักงานคนแรกพอเห็นพาสปอร์ตเวชไม่ยอมทำให้บอกว่าเอกสารไม่ถูกต้อง เอ่อ..อันนี้แก้ไขยากหน่อยนะ ฉันมีเล่มนี้เล่มเดียว และกว่าเขาจะเข้าใจว่าควรจะเอามือถือตัวเองขึ้นมากด ๆ คุยกันผ่านเวบต์ช่วยแปล เฮ่อ.. อยากกรี้ดดดดดัง ๆ อีกที ปวดหัวตึ๊บเลยอ่ะ สักพักนึกขึ้นได้ว่าท่ีคัชก้าท่ีเราซื้อซิมแรก เข้าคุ้ย ๆ เอกสารตรงหน้าแล้วก็หยิบเอาแผ่นก้อปปี้บัตรประชาชนของใครไม่รู้มาลงทะเบียนให้เรา ตอนนั้นก็คิดว่าทำอย่างไรก็ได้ขอให้ฉันได้ซิมมา เลยเล่าให้เขาฟัง แต่กว่าเธอจะเข้าใจว่าเวชไม่สามารถเข้าใจภาษาจีน เอาโทรศัพท์มากดคุยกันบอกให้เขาทำอย่างท่ีพนักงานท่ีคัชก้าทำให้ได้มั้ยละ ไม่ได้! อยากกรี้ดด้วยบ้างหรือยังคะ??? พอดีมีเพื่อนพนักงานอีกคนเดินเข้ามา เขาคุยกันและก็บอกว่าน่าจะทำได้ หันมาหาเวชแล้วถามว่ามีชื่อจีนมั้ย? ไอ่หย๋า..ก็มีนะ แต่จำไม่ได้แล้วว่าเขียนยังงัย สรุปเขาเขียนชื่อตามในพาสปอร์ต เราเลยขอให้เขาจัดการให้เราโดยท่ีเราจ่ายไปเลยสำหรับ 2 เดือนท่ีอยู่ท่ีเมืองจีนจะได้ไม่ต้องวุ่นวายอีกครั้งหนึ่ง เฮ้อ..แต่ก็ไม่วาย เพราะเมื่อวานนี้รู้สึกว่าเรามีสัญญาณแต่ไม่มีอินเตอร์เนต คงต้องลุยหรือกรี้ดดดกันอีกรอบละ เบื่อจริง ๆ สื่อสารกันไม่ได้นี่มันช่างเสียเวลาจริง ๆ

ออกไปเดินหาซื้อของกิน เห็นร้านนี้ป้ายเขาว่ามีกาแฟ แพนเค้ก เลยมากินอาหารเช้าท่ีนี่ มี wifi ด้วยเลยนั่งกันนานเลย

ออกไปเดินหาซื้อของกิน เห็นร้านนี้ป้ายเขาว่ามีกาแฟ แพนเค้ก เลยมากินอาหารเช้าท่ีนี่ มี wifi ด้วยเลยนั่งกันนานเลย

ทางออกจากเมืองมีตึกเก่า ๆ ข้างล่างเป็นร้านอาหารร้านขายของซื้อน้ำท่ีนั่น

ทางออกจากเมืองมีตึกเก่า ๆ ข้างล่างเป็นร้านอาหารร้านขายของซื้อน้ำท่ีนั่น

ถนนหนทางของจีนมักจะมีต้นไม้ข้างทาง ทำให้รู้สึกร่มรื่นเขียวเย็นตา

ถนนหนทางของจีนมักจะมีต้นไม้ข้างทาง ทำให้รู้สึกร่มรื่นเขียวเย็นตา

ก่อนท่ีจะเราจะถึงเมืองหมินเล่อ เราเห็นนักปั่นคนหนึ่งกำลังนอนพักผ่อนอยู่ข้างถนน จะเข้าไปทักก็กลัวจะเป็นการรบกวนเราเลยปั่นเลยไป ทางเข้าเมืองก็ดูไม่เหมือนเช่นกันว่าจะมีเมืองใหญ่ท่ีอยู่ลึกเข้าไปอีก พอเช็คเอาท์ออกจากโรงแรมท่ีอยู่ก็เห็นโรงแรมอยู่ข้าง ๆ อีกท่ีหนึ่ง ปั่นออกมาได้ไม่ไกลนัก ก็เห็นจักรยานอยู่ข้างหน้าเราคันหนึ่ง ตอนแรกนึกว่าเป็นบาเทคเพราะเขาเขาปั่นช้าเลยมักจะออกก่อนเรา แต่ไม่เห็นกระเป๋าสองใบเล็กด้านหน้า ไม่ใช่บาเทคแล้วล่ะ พอเราปั่นไปถึงก็หยุดคุยกับเขาและได้ความว่าเป็นชาวจีนคนหนึ่ง ทำงานได้ 3 ปีเป็นวิศกรด้านคอมพิวเตอร์ ลาออกแล้วมาปั่นรอบประเทศจีน เขาออกทริปมาได้ 1 ปีนิด ๆ ละ

ในตัวเมืองหมินเล่อ

ในตัวเมืองหมินเล่อ

หนุ่มจีนชื่อฟิชเชอร์

หนุ่มจีนชื่อฟิชเชอร์

หลังจากนั้นเราปั่นกันสักช่วงหนึ่ง จนกระทั่งมาถึงยอดเขาแรกของวันนี้ เผอิญบาเทคเพื่อนเราเกิดอาการอยากจะอาเจียนท้องเสียเป็นไข้ หลายอย่างพร้อมกันทีเดียว เราเลยต้องให้เขาตัดสินใจว่าจะไปต่อท่ีความสูงสูงขึ้นแล้วไหลลงไปในเมืองหรือจะย้อนลงไปท่ีต่ำกว่าแล้วตั้งแคมป์ เราเข้าใจบาเทคเพราะในสภาพแบบนั้นก็ไม่อยากนอนเต้นท์ อยากนอนในท่ีอุ่น ๆ มากกว่า เราเลยปั่นต่อขึ้นเขาและไหลลงมาท่ีเมืองเล็ก ๆ แห่งหนึ่ง โชคดีของเราท่ีวันนี้เรามีฟิชเชอร์มาด้วย เขาช่วยเราหาโรงเตี้ยม เพราะเมืองเล็ก ๆ นี้ไม่มีโรงแรมแน่นอน เขาวิ่งหาติดต่อเช็คราคา แต่ตรงท่ีเรายืนรอนั้นลมแรงมากอุณหภูมิอยู่ท่ี 7 องศา ได้ห้องพักคู่เรายกเตียงให้ฟิชเชอร์และบาเทค ส่วนเราสองคนนอนพื้น พื้นเป็นเสื่อน้ำมันเรามีอุปกรณ์พร้อมเลยยกเตียงให้พวกเขา อย่างน้อยบาเทคท่ีเข้าห้องพักปุ๊บก็สลบหลับไปเกือบถึงเช้าเลย

เช้านี้โจคิมเปลี่ยนยางในทั้งสองล้อ บาเทคล่วงหน้าไปก่อน ฟิชเชอร์รอเรา แต่ใจจริงอยากให้เขาไปพร้อมกับบาเทคเพราะเขาปั่นความเร็วพอ ๆ กัน พอโจคิมเปลี่ยนเรียบร้อยแล้ว เราก็ออกเดินทาง สักพักฟิชเชอร์ว่าเขาปวดท้องแถมบางครั้งอยากจะอาเจียน เหมือนท่ีบาเทคเป็นเมื่อวานนี้ แต่เขาไม่มีไข้เท่านั้นเอง ปั่นได้แต่ค่อย ๆ ไป เราไม่กล้าทิ้งเขาให้ปั่นอยู่คนเดียว เรายต้องปั่นตามความเร็วของเขา สำหรับเวชปั่นความเร็วขนาดนั้นเหมือนตอนปั่นไปเซเว่นมากกว่า วันนี้เราปั่นขึ้นเขาต่อจากเมื่อวานนี้ ยังคงขึ้นเรื่อย ๆ

วิวระหว่างทางจากเมืองเล็ก ๆ นั่น

วิวระหว่างทางจากเมืองเล็ก ๆ นั่น

SONY DSC

SONY DSC

วัดสไตล์ทิเบตบนทางขึ้นเขา

วัดสไตล์ทิเบตบนทางขึ้นเขา

SONY DSC

มาถึงยอดแรกของเส้นทางท่ีเราจะปั่นกันใน 3-4 วันนี้

มาถึงยอดแรกของเส้นทางท่ีเราจะปั่นกันใน 3-4 วันนี้

เมืองเล็ก ๆ ท่ีบาเทคนอนไม่สบาย เช้าวันรุ่งขึ้นก็ดีขึ้นเยอะแต่ยังไม่ 100% เท่านั้นเอง

เมืองเล็ก ๆ ท่ีบาเทคนอนไม่สบาย เช้าวันรุ่งขึ้นก็ดีขึ้นเยอะแต่ยังไม่ 100% เท่านั้นเอง

เมื่อเช้ามองออกไปทางหน้าต่าง เห็นพื้นถนนชื้น ๆ ฝนตกแหมะ ๆ อากาศเย็น ๆ เสร็จเลยเรา ดันส่งเสื้อผ้าชุดกันฝนกลับบ้านไปหมดแล้ว ลองลงไปกินข้าวเช้าแล้วดูว่าอากาศเป็นยังงัย อืม..ก็ไม่ถึงกับแย่นัก!!! เรานั่งกินท่ีร้านท่ีเรากินเมื่อคืนนี้ กินเสร็จก็ซื้อไข่และซาลาเปาไปกินกลางวัน ฝนยังคงตกอยู่แต่ดีท่ีไม่มีลม บาเทคไปก่อน เราไปหาซื้อเสื้อผ้ากันหนาวและถุงเท้า ได้ถุงเท้ามาคนละคู่ กางเกงคนละตัว เสื้อฟลีซอีก 1 ตัว ซื้อได้แล้วฝนเริ่มซาดีแดดไม่ออกด้วย ถ้าเป็นอย่างนั้นคงได้คืนทุกตัวแน่ 🙂 ช่วงเช้าป่ันออกมาถนนยังเปียก ๆ แค่ตรงช่วงท่ีต้นไม้หนาตา ถ้าเป็นท่ีโล่ง ๆ พื้นแห้งแล้ว สองข้างทางดูเหมือนต้นไม้ท่ีสวีเดน ดูร่มรื่น แต่เรารีบและไม่อยากเอากล้องออกมาตอนนั้นเพราะอากาศชื้น ๆ ทางขึ้น ๆ ลง ๆ ส่วนใหญ่ลงมากกว่า พอออกจากเมือง เข้าเขตภูเขา ทางเริ่มสวย ปั่นตามแม่น้ำดาตอง ผ่านหมู่บ้านหลายแห่ง มีท่ีหนึ่งเด็กตะโกนเรียก “ฝรั่ง ๆๆ” เราปั่นไปชมวิวถ่ายรูปไป สวยทุกมุม เลือกทางได้ถูกต้องจริง ๆ วันนี้เป็นอะไรท่ีพิเศษอีกวันหนึ่ง

วิวหลังจากออกจากเมืองเล็ก ๆ นั้น

วิวหลังจากออกจากเมืองเล็ก ๆ นั้น

บ้านสไตล์ทิเบตมีการตกแต่งเห็นหลายหลังเชียวแหละ

บ้านสไตล์ทิเบตมีการตกแต่งเห็นหลายหลังเชียวแหละ

ปั่นเป็นเพื่อนฟิชเชอร์มาเรื่อย ๆ เพราะเขาเริ่มรู้สึกไม่ดี ปวดท้อง

ปั่นเป็นเพื่อนฟิชเชอร์มาเรื่อย ๆ เพราะเขาเริ่มรู้สึกไม่ดี ปวดท้อง

ระหว่างทางจะเห็นแกะและยอร์ค เขาว่ายอร์คมันมีปอดท่ีใหญ่เป็นพิเศษ มิน่าชอบอยู่ในท่ีสูง ๆ

ระหว่างทางจะเห็นแกะและยอร์ค เขาว่ายอร์คมันมีปอดท่ีใหญ่เป็นพิเศษ มิน่าชอบอยู่ในท่ีสูง ๆ

SONY DSC

ถ่ายรูปคู่่หน่อย โจคิมกับฟิชเชอร์ท่ียอดท่ีสองสูงเกือบ 3800 เมตร

ถ่ายรูปคู่่หน่อย โจคิมกับฟิชเชอร์ท่ียอดท่ีสองสูงเกือบ 3800 เมตร

หลังจากยอดสูง 3800 เมตรนั่นเราก็ไหลลงอย่างเดียวเกือบ 20 กม. สนุกมาก พอมาถึงท่ีลุ่ม เขาเริ่มทำการเกษตรกันมากขึ้น

หลังจากยอดสูง 3800 เมตรนั่นเราก็ไหลลงอย่างเดียวเกือบ 20 กม. สนุกมาก พอมาถึงท่ีลุ่ม เขาเริ่มทำการเกษตรกันมากขึ้น

ปลูกอะไรกันสักอย่าง เขามีปลูกต้นคริสต์มาสด้วยนะ คาดว่าคงจะเอาไปปลูกบนเขาเพื่อกันดินถล่ม

ปลูกอะไรกันสักอย่าง เขามีปลูกต้นคริสต์มาสด้วยนะ คาดว่าคงจะเอาไปปลูกบนเขาเพื่อกันดินถล่ม

อีก 7-8 โลเข้าเมืองเรารอบาเทคและฟิชเชอร์ มาถึงแล้วปั่นเข้าเมืองพร้อมกัน Fisher เห็นโรงเตี้ยมหลายท่ี ถ้าเรามากันเอง คงไม่รู้ว่าท่ีไหนเป็นท่ีพักแน่นอน เราเดินเข้าไปสอบถามและดูห้องด้วยกัน เอาท่ีแรกเพราะสามารถต่อราคาได้ จากราคาคนละ 30 เป็น 20 หยวน ไม่มีห้องอาบน้ำมีแต่ห้องน้ำอยู่ข้างนอก เป็นรูท่ีพื้น แต่ดีกว่าท่ีจินตนาการไว้ ชักหิว รีบเอากระเป๋าเข้าไปเก็บท่ีห้อง แล้วตรงไปท่ีร้านอาหารเลย ฟิชเชอร์จัดการถามเจ้าของท่ีพักให้เรียบร้อยแล้วว่าร้านไหนอร่อย มีเพื่อนท่ีเป็นคนท้องถิ่นปั่นด้วยกันทำให้เราได้สัมผัสเมืองจีนในอีกแง่มุมหนึ่ง

มื้อเย็นมื้อสุดท้ายกับฟิชเชอร์ในทริปนี้ หวังว่าคงได้มานั่งกินด้วยกันอีกครั้ง ไม่ว่าท่ีจีนหรือท่ีไทยนะฟิชเชอร์นะ ;-)

มื้อเย็นมื้อสุดท้ายกับฟิชเชอร์ในทริปนี้ หวังว่าคงได้มานั่งกินด้วยกันอีกครั้ง ไม่ว่าท่ีจีนหรือท่ีไทยนะฟิชเชอร์นะ 😉

ฤกษ์ดี!!! ตื่นเช้ามาก็ได้ปะยางอีกแล้ว คิดว่าเมื่อวานแวะเข้าข้างทางบ่อย อ๊ะ ๆ รู้นะว่าคิดอะไรอยู่ แวะถ่ายรูปค่ะ เลยโดนจิ้มด้วยลวดเพื่อนเก่าจากทางด่วน เฮ้อ…นึกว่าจะหลุดพ้นแล้วนะเนี่ย แต่เปล่า มันยังคงตามมากวนใจ บอกให้บาเทคไปก่อน เกรงใจเขาอีกอย่างเขาปั่นช้ากว่าเรา ปะเสร็จเราชวนฟิชเชอร์ไปกินอาหารเช้ากัน เขาอยากได้อาหารร้อน ๆ เราไปท่ีร้านเดิมท่ีกินมื้อเย็น แต่เขายังเตรียมไม่เสร็จเขาแนะนำให้ไปร้านก๋วยเตี๋ยวตรงหัวมุม แถมยังบอกด้วยว่าเป็นร้านเก่าแก่ เปิดมานานกว่า 20 ปีแล้ว ว้าว… คงจะเป็นการถ่ายทอดภายในครอบครัว หายากแล้วเนอะแบบนี้ เดี๋ยวนี้กลายเป็นศูนย์อาหารกันไปหมด คงจะพอมีให้เห็นบ้างตามชนบทมั้ง เราซื้อไข่ต้มขนมปังติดตัวไปด้วยเผื่อมื้อกลางวัน ส่วนใหญ่กลางวันจะกินน้อยเพราะถ้ากินมากไปคงปั่นไม่ไป จุกเสียก่อน วันนี้บรรยากาศรอบ ๆ ก็สวย แต่เรารีบอีกแล้ว เพราะวันนี้อยากให้ถึงเมืองมินเฮอ ระยะทางประมาณ 120 กม. ทางยังคงลาดลงเหมือนเมื่อวาน เราตั้งใจจะออกเร็วหน่อยแต่ยางแบนและก็อยากจะร่ำลาฟิชเชอร์ เลยออกสายเกินกว่าท่ีตั้งใจไว้ 60 โลแรกถนนดีมาก แดดยังไม่จ้าเท่าไหร่ยังพอถ่ายรูป แต่หลังจากนั้นเขาเริ่มทำถนน เป็นช่วง ๆ บางช่วงยาวบางช่วงสั้น ถนนแย่เป็นหลุมเป็นบ่อ ยังดีท่ีทางส่วนใหญ่ลาดลง ไม่อย่างนั้นแย่เลยเพราะบางครั้งรถใหญ่รถบรรทุกมากมาย ขนเอาทรายเอาหินไปท่ีก่อสร้างอีกท่ีหนึ่ง ฝุ่นตลบทั้งครึ่งวัน ระยะทางช่วงนี้มีหมู่บ้านหนาแน่นขึ้น ชาวบ้านส่วนใหญ่มองเราเหมือนตัวประหลาด มีส่วนน้อยท่ีหันมายิ้มและเชียร์เรา คงไม่เคยชินท่ีมีคนแปลกหน้าผ่านมาด้วยจักรยานขนสัมภาระเต็มคันอย่างเรา 🙂

แยกกันตรงนี้

แยกกันตรงนี้

ฟิชเชอร์เลี้ยวขวาขึ้นเขา เราเลี้ยวซ้ายลงเขา ชวนเขาแล้ว อิอิ แต่เขานัดกับเพื่อนท่ีชินหนิง มีพบก็ต้องมีจาก แต่หวังว่าคงจากเพื่อมาพบกันใหม่

ฟิชเชอร์เลี้ยวขวาขึ้นเขา เราเลี้ยวซ้ายลงเขา ชวนเขาแล้ว อิอิ แต่เขานัดกับเพื่อนท่ีชินหนิง มีพบก็ต้องมีจาก แต่หวังว่าคงจากเพื่อมาพบกันใหม่

ปั่นมาได้อีก 40 กม.จะถึงเมืองมินเฮอท่ีเราตั้งใจ เผอิญเกิดอาการหิว ขี้เกียจนั่งกินตามร้านเลยซื้อกล้วยกับลูกพลับมากินรองท้องไว้ มีรถสามล้อวิ่งอยู่ข้างหน้าเรา ช่วงทางเรียบเราแซงเขา พอทางเริ่มชันเขาก็มาแซงเรา เราทำท่าเหมือนจะพยายามเกาะท้ายรถ พวกเขาก็รีบชวนให้เกาะแถมทำไม้ทำมือชวนขึ้นรถเลยด้วย น่ารักนะเวลาท่ีเขาเล่นด้วย แต่พอทางลาดลงปุ๊บ บ๊ายบาย!! เราแซงเขาดิ่งลงมาถึงเมืองเลยมาเจอกันอีกทีตรงทางแยก เพราะเราจอดดูแผนท่ี นี่ถ้าเลี้ยวไปทางเดียวกันจะไปขอนอนท่ีบ้านเขาเลยนะเนี่ย บางช่วงปั่นกันอยู่ขอบภูเขาเลย อยากแวะถ่ายรูปแต่จราจรคับคั่งมาก แค่เราไปใช้ถนนร่วมกับเขา เขากดแตรไม่รู้เตือนหรือรำคาญ เอาเป็นว่าเตือนละกันเนอะ บางครั้งรถใหญ่กดแตรทีขี้หูเต้นระบำเลย มีครั้งหนึ่งตกใจ ดีท่ีทางตรงนี้ยังดี จากตรงนี้ยังมีอีกหลายช่วงท่ีกำลังก่อสร้าง เอ้า..ลุยกันต่อ พอถึงเมืองเราเริ่มมองหาท่ีพัก เริ่มจำตัวอักษรจีนท่ีแปลว่าโรงเตี้ยมได้บ้าง มีค่ะมีจดในกระดาษอยู่เหมือนกัน วันนี้อยากนอนท่ีดี ๆ หน่อยอยากเขียน๊อคเล่าเรื่องให้เพื่อน ๆ อ่านกัน อิอิ อยากอาบน้ำซักผ้าด้วยค่ะ 🙂 🙂 มีปัญหาเรื่องเขาไม่รับชาวต่างชาติอีกล่ะ นี่ถ้าฟิชเชอร์ไม่ปั่นไปชินหนิง (Xining) เสียก่อน เราคงไม่ต้องควานหาโรงแรมนั้นโรงแรมนี้ เพราะเราสามารถลงทะเบียนในชื่อเขาทีเดียว เอ้า..หากันต่อไป แต่ก็ยังดีนะท่ีพนักงานโรงแรมนี้รู้ว่าควรจะแนะนำเราไปท่ีไหน ปั่นไปก็ถามไป จนมาถึงจนได้

SONY DSC

บ้านตามแถบภูเขาท่ีเราปั่นผ่านมีหลายหลังท่ีมีเรือนกระจกท่ีเห็นบ่อย ๆ ท่ีสวีเดน ท่าทางอากาศน่าจะคล้าย ๆ สวีเดนมั้ง อึ๋ย...

บ้านตามแถบภูเขาท่ีเราปั่นผ่านมีหลายหลังท่ีมีเรือนกระจกท่ีเห็นบ่อย ๆ ท่ีสวีเดน ท่าทางอากาศน่าจะคล้าย ๆ สวีเดนมั้ง อึ๋ย…

SONY DSC

DCIM100GOPRO

DCIM100GOPRO

ช่วงท่ีปั่นเข้าหมินเฮอประมาณ 40 กม.แรกทางดีมาก หลังจากนั้นก็เริ่มมีการก่อสร้างถนนเป็นช่วง ๆ ถนนเฉอะแฉะ เป็นหลุมเป็นบ่อ ฝุ่นตลบ ถึงโรงแรมคุยกับเขาต่อรองราคาถามรายละเอียดจนกระทั่งขึ้นมาถึงห้องพักถึงได้เห็นหน้าตัวเองว่าดำปี๋ขนาดไหน

นี่ขนาดเอาผ้าปิดหน้า เห็นรอยท่ีหน้าผากมั้ยคะ ขอบหมวกท่ีใส่กันแดด พิสูจน์ได้ว่ากันฝุ่นได้เหมือนกัน

นี่ขนาดเอาผ้าปิดหน้า เห็นรอยท่ีหน้าผากมั้ยคะ ขอบหมวกท่ีใส่กันแดด พิสูจน์ได้ว่ากันฝุ่นได้เหมือนกัน