Monthly Archives: May 2013

จอร์เจีย => Batumi (บาทุมิ) ปั่นขึ้นยอดเขา Goderdzi pass พักที่ Akhaltsikhe (อัคฮาลท์สิเฮอะ)

ช่วงที่อยู่ที่บาทุมิเราวุ่นอยู่กับการดำเนินการขอวีซ่าเข้าจีน ทางการจีนไม่ค่อยอยากต้อนรับนักปั่นเข้าจีนโดยเฉพาะทางด้านตะวันตก เพราะอาจจะเป็นการซอกแซกเข้าไปตามหมู่บ้านเล็ก ๆ ที่ได้ผลเกินไป ถ้าเราบินหรือใช้พาหนะอื่นเข้าเมืองที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวของจีน ไม่มีปัญหา แต่ยังงัยก็แล้วแต่ทุกคนที่ต้องการเข้าจีนต้องมีเอกสารพร้อม ว่าจะบินเข้า-ออกวันไหน อยู่โรงแรมไหน จะเดินทางไปไหน อยู่กี่วัน เรานั่งค้นหาข้อมูลที่พักที่เที่ยวของจีนอย่างละเอียดและเป็นประเทศแรกที่ศึกษาที่เที่ยวโดยที่จะไม่ไปสักทีที่ค้นกันมา คุ้ยข้อมูลจนกระทั่งอยากไปเที่ยวจริง ๆ เสียแล้วสิ 🙂 หลังจากเตรียมวีซ่าจีนก็ต่อด้วยวีซ่าอุซเบกิสถาน ซึ่งก็ต้องการเอกสารไปอีกอย่างหนึ่งก็ต้องรบกันอีกต่อไป กำลังแก้ปัญหากันอยู่ อาจจะต้องเปลี่ยนเส้นทางอีก หรืออะไรสักอย่าง ต้องคิดดูอีกที เฮ้อ… เมื่อคืนมีนักปั่นจากโปแลนด์เข้าพักที่โฮสเทลด้วย ได้คุยกันแลกเปลี่ยนอีเมลย์ เมื่อวานได้ข่าวว่าเขามีปัญหาว่าสถานฑูตอัซเซอร์ไบจานที่บาทุมิออกวีซ่าให้ไม่ได้เพราะสติ๊กเกอร์หมด

ลาก่อนทะเลดำ กว่าจะเจอทะเลอีกทีคงเป็นทะเลสาบแคสเปี้ยนที่อัซเซอร์ไบจาน

ลาก่อนทะเลดำ กว่าจะเจอทะเลอีกทีคงเป็นทะเลสาบแคสเปี้ยนที่อัซเซอร์ไบจาน

เวลาเกือบบ่ายสาม เราปั่นออกจากบาทุมิ เราเลือกเส้นทางผ่านเขาที่สูง 2025 เมตรจากระดับน้ำทะเล ป้ายบอกทางอยู่ดี ๆ ก็หายไปไหนไม่รู้ ปั่นวนหาทางอยู่นาน พอปั่นย้อนกลับมาถึงจะเห็นป้าย หาทางเจอแล้วก็เริ่มหิวหาร้านอาหารต่อ 😉 ตามร้านค้าเห็นเขาเอาป้ายรายการอาหารมาตั้งโชว์ไว้ ไม่มีอาหารและไม่ใช่ร้านอาหารด้วย งง??? ชักหิวเลยหยุดที่ปั้มแห่งหนึ่ง แต่ความที่เราไม่ได้ซื้ออะไรตุน นอกจากไข่ต้มที่ต้มไว้ตั้งแต่เมื่อวาน อืม..ดีกว่าปั่นแบบท้องว่าง ๆ เนอะ ไข่ต้มก็ยังดี ทางนี้แรก ๆ เรียบปั่นสบายร่มรื่น อาจจะเป็นเพราะยังอยู่ใกล้เมืองบาทุมิ ที่จอร์เจียจ่ายด้วยการ์ดเริ่มไม่ค่อยสะดวก บางร้านติดป้ายวีซ่ามาสเตอร์การ์ดแต่ไม่รับอยู่ดี เราเลยต้องหาตู้กดตังค์ก่อน ก่อนออกจากบาทุมิ เราถามพนักงานท่ีนั่น ว่าที่เมืองเคดา (Keda) เมืองถัดไปนี่จะมีที่พักมั้ย? เขาก็บอกว่ามี คำว่า “เกสเฮาส์” ของเขาตอนนี้ชักเริ่มสงสัยละ ว่ามันคือ “homestay” หรือเปล่า? คือเป็นอีกลักษณะหนึ่งของการท่องเที่ยว โดยที่ครอบครัวในท้องถิ่นนั้นเปิดห้องให้เช่า ส่วนใหญ่ผู้มาพักสามารถใช้เครื่องครัวและบางครั้งอาจจะได้เรียนภาษาท้องถิ่นนั้น ๆ ถ้าสนใจ เราก็ไม่แน่ใจว่าเขาหมายถึงอะไรกันแน่ แต่ที่แน่ ๆ คือไม่มีทั้งโรงแรมหรือเกสเฮาส์ เราไปซื้ออาหารเผื่อว่าต้องแมปิ้งคืนนี้ แต่พอเราเริ่มถามชาวบ้านเรื่องโรงแรม ทีนี้เหมือนไฟไหม้ฟางอย่างไรอย่างนั้นเลย ปากต่อปาก จนกระทั่งมีคนหนึ่งที่บ้านเขามีสมรรถภาพพอที่จะรับแขกได้ เราตามเขาไปเพราะเขาว่าที่บ้านมีอินเตอร์เนต เพราะเราต้องการเช๊คข้อมูลวีซ่าและกำลังรอคำตอบจากหลาย ๆ ทาง อ่า..เราเห็นสภาพบ้านจากภายนอก นึกไปถึงถุงนอน ว่าจะต้องเอาออกมาใช้หรือเปล่าน๊า??? แต่พอขึ้นบ้านไป อ้าว..งง บ้านหลังเดียวกันหรือเปล่าเนี่ย ด้านในเขาตกแต่งเสียอย่างดี เรียบร้อย มีห้องน้ำ น้ำอุ่น ส้วมทันสมัย ตอนนั้นก็เริ่มดึกแล้ว เราเลยนั่งทำแซนวิชไข่กินกันที่ระเบียง

วิวจากระเบียงที่พักที่โฮมสเตย์

วิวจากระเบียงที่พักที่โฮมสเตย์

เช้าวันรุ่งขึ้น เราเริ่มเดินทางต่อ ร่ำลาเจ้าของบ้านเรียบร้อย ที่น่ีถ้าพูดภาษารัสเซียได้ช่วยได้เยอะเลย เราปั่นจนกระทั่งมาถึงเมืองคุโร (Khulo) ที่คิดว่าใหญ่กว่าเมืองเคดาหน่อย มีโรงแรม แต่เรามาถึงสักเที่ยงกว่า ๆ จะจอดอยู่ตรงนี้ก็เร็วเกิน แต่ก็น่าสนใจ เพราะมีคนหนึ่งเขาเคยเป็นนักมวยปล้ำรุ่น 68 กก.ไปแข่งที่เยอรมัน เลยได้ภาษามาด้วยคุยกับโจคิมรู้เรื่อง เขาช่วยเหลือหลายอย่าง ถึงขนาดขับรถพาโจคิมไปหาร้านเนตในเมือง แต่เพราะเผอิญเขาจะกลับบ้านไปเอาเบ๊ตตกปลาด้วยก็เลยอาสาพาไป ขนาดไปกับคนท้องถิ่นยังหาร้านไม่เจอเลย กินเสร็จก็ต่อ เรามีเสบียงติดตัวมาด้วย ปั่นจนเกือบมืด แต่ก็ยังทันได้นั่งทำอาหารบนเนินสูง ชมวิว

วิวจากเนินสูงจากตรงที่ตั้งแคมป์ อุตส่าห์ปีนขึ้นไปทำถึงบนโน้น ไม่น่าจะมีใครสนใจเงยขึ้นมามองเรา

วิวจากเนินสูงจากตรงที่ตั้งแคมป์ อุตส่าห์ปีนขึ้นไปทำถึงบนโน้น ไม่น่าจะมีใครสนใจเงยขึ้นมามองเรา

เส้นทางนี้สวยมาก เราจอดเกือบทุก ๆ ร้อยเมตรเพื่อเก็บภาพ จนกระทั่งแผ่นความจำของทั้งในกล้องและกล้องวีดีโอ GoPro เต็มหมด ปั่นเรียบแม่น้ำทำให้รู้สึกไม่ร้อนเท่าไหร่ระหว่างทางเห็นวัวตัวหนึ่งโชคร้ายถูกหินหล่นลงมา น่าจะหล่นใส่หัวนะ มันคงน๊อคสิ้นใจทันที เราเห็นก้อนใหญ่ ใหญ่แบบยกคนเดียวไม่น่าขึ้น แล้วมันหล่นลงมาใส่หัว จะไปเหลืออะไร ไปสู่ที่ชอบ ๆ นะเจ้าวัว เราจัดแจงซื้ออาหารตุน เพราะมวยปล้ำคนนั้นบอกว่าทางที่เราจะไปนั่นไม่มีอะไรเลย รึ? ก็เลยเข้าไปซื้อ พอป่นออกจากเมืองนี้ไม่เท่าไหร่ ทางก็เริ่มแย่ และหลังจากนั้นก็กระเด้งกระดอนไปตลอดทาง

ภาพจากถนนขรุขระระหว่างทางจากเมืองคุโร

ภาพจากถนนขรุขระระหว่างทางจากเมืองคุโร

ตอนเช้าตอนที่เวชเดินกลับขึ้นไปเช๊คอีกทีตรงที่เรากางเต้นท์ว่าเราลืมอะไรทิ้งไว้หรือเปล่า? มีนักท่องเที่ยวเยอรมันมาคุยด้วย เขามากันเป็นรถตู้เป็นนักศึกษาเกี่ยวกับการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ คุยกันได้พักใหญ่ ๆ พวกเขาจะขึ้นไปสำรวจบนเขา เขาเคยอยู่ที่ Globus hostel และจำเราได้ แต่เราจำเขาไม่ได้เลย จากคุโรปั่นลงเขาระยะหนึ่งก่อนแล้วค่อยขึ้นเรื่อย ๆ ตอนเช้ามีตนเดินผ่านตรงที่เรากางเต้นท์เยอะมาก นักเรียนและคนเลี้ยงวัว ระหว่างทางก็ยังเจอพวกเขาตลอดทาง คิดว่าน่าจะมีทางเดินตัดเขาขึ้นมา ทางขรุขระแย่มากตั้งแต่ออกจาก Khulo หลังจากที่เรากินข้าวเสร็จ กระเด้งกระดอนกันมาตลอดทาง พอมาถึงยอดที่ความสูง 2025 ที่ Goderdzi pass เจอคนเมาและมีคนมาชวนไปกินเหล้าด้วย นั่นบ่ายสองเองนะ เมากันขนาดนั้นแล้ว

วิวระหว่างทางที่เราเก็บภาพจนแบตฯหมดเมมเต็ม

วิวระหว่างทางที่เราเก็บภาพจนแบตฯหมดเมมเต็ม

ยังมีหิมะเปียก ๆ ที่กำลังละลายที่ความสูงประมาณ 1900 เมตรจากระดับน้ำทะเล

ยังมีหิมะเปียก ๆ ที่กำลังละลายที่ความสูงประมาณ 1900 เมตรจากระดับน้ำทะเล

ขอถ่ายด้วยคน สงสัยจะเมาได้ที่แล้วมั้ง ;-)

ขอถ่ายด้วยคน สงสัยจะเมาได้ที่แล้วมั้ง 😉

ที่ยอดเขามีร้านค้าเล็ก ๆ โจคิมเดินเข้าไปเห็นว่าไม่มีอะไรที่สามารถกินเป็นอาหารกลางวันได้นอกจากไข่สดซื้อไข่ในร้านขายของชำเล็ก ๆ ตอนแรกเขาไม่ยอมขายจะต้มให้ก่อน เราเลยต้องเอากระทะออกมาให้ดู เขาถึงเข้าใจว่าเราจะทำอะไร ได้มา 4 ฟองจัดการเอาเตาสนามออกมา เต๊าะไข่หั่นไส้กรอกที่เหลือเมื่อเช้าลงไปเจียว ๆ ปรุงด้วยพริกไทยดำและเกลือแค่นี้ก็เป็นอาหารยอดเขาที่เลิศแล้ว หลังจากนั้นก็ปล่อยไหลลงอย่างเดียว แต่ทางแย่เหมือนตอนขึ้น ก็ต้องเบรคกันตลอดทาง เฮ้อ..เบรคจนเมื่อยข้อมือไปหมด ลงมาถึงเมือง Adigeni (อาดิเกนี่) ว่าจะซื้ออาหารตุน พอลองถามเรื่องที่พัก เขาก็จัดการโทรหาคนที่เขารู้จัก คือพาไปนอนบ้านเขาแบบ homestay แต่เราไม่อยากเพราะคุยกันไม่รู้เรื่อง เลยปั่นต่ออีก 30 กม. ไปเมืองที่ใหญ่ขึ้นมาหน่อย Akhaltsikhe (อัคฮาลสิคเฮอ) เวลาตอนนั้นทุ่มกว่า ๆ แล้ว เห็นป้ายโรงแรมสำหรับรถบรรทุก ลองเข้าไปถามราคา เขาบอก 20 ลารี ต่อคน เราลองต่อเหลือ สองคน 30 ได้มั้ย? เขาก็โอเค คุยไปคุยมา เล่าให้เขาฟังว่าปั่นผ่านตุรกีมา เขาก็บอกว่าเขาเป็นคนตุรกี น่าจะเป็นเจ้าของ เลยคุยและเฮกันได้นิดหน่อย

ร้านค้าเล็ก ๆ บนยอดเขา

ร้านค้าเล็ก ๆ บนยอดเขา

โรงแรมที่นอนเมื่อคืนน่าจะเปรียบได้กับโรงแรมจิ้งหรีด นอนเต้นท์ยังรู้สึกสบายกว่าอีก เตียงที่นอนอยู่ดี ๆ เหมือนแผ่นกระดานมันล่องหนหายไป เลยต้องนอนเบียดกันบนเตียงขนาดเล็กสำหรับนอนคนเดียว อบอุ่นดี 🙂 พอเช๊คเอาท์ออกมาเราลองปั่นเข้าเมืองเผื่อดูว่าจะสามารถหาอินเตอร์เนตได้มั้ย ก็มาเจอโรงแรมแห่งหนึ่ง ขอเขาใช้เน๊ตพอเช๊คทุกอย่างเรียบร้อย เวลาบ่ายพอดี เลยตัดสินใจพักอยู่ตรงนี้ติดต่อและหาข้อมูลเกี่ยวกับวีซ่า เอากระเป๋าเก็บเรียบร้อย เราออกไปเดินหาของกิน เพราตั้งแต่เช้ายังไม่ได้กินอะไรเลย เดิน ๆ ไปเห็นป้ายโฆษณา Rider’s Dream www.RidersDream.net เป็นร้านจักรยานนำเที่ยวทั้งทัวร์ริ่งและดาวน์ฮิล เดินเข้าไปคุยด้วยหน่อยกับเด็กคนหนึ่งเราบอกเขาว่าเราปั่นข้ามมาจากเมืองคูโร เขายกนิ้วให้ และบอกว่าเขาไม่ชอบขึ้นเขาชอบดาวน์ฮิลมากกว่า คงมีไม่กี่คนที่ชอบขึ้นเขา เราเองยังไม่ค่อยชอบแต่ได้ชมวิวจากที่สูง เห็นแล้วก็เหมือนเป็นรางวัลที่อุตส่าห์ปั่นขึ้นไป และอีกอย่างมีขึ้นก็ต้องมีลง \(^o^)/

วิวบนยอดเขา คุ้มที่พยายามปั่นขึ้นมา

วิวบนยอดเขา คุ้มที่พยายามปั่นขึ้นมา

Day 59-61 (Batumi – Akhaltsikhe)

We are not able to update as frequently as before so this is a long post about three days:

Day 59 (Batumi – Keda)

We stayed in Batumi not only one but two days longer than planned and the reason was that we needed more time to take care of our bikes and to do administrative issues such as preparing visa applications for Uzbekistan and China. I have read blogs from other cyclists telling about these preparations taking a lot of time and I then had problems understanding why – now I do understand why….

The evening before we left a Polish cyclist arrived. He is on his way to Sydney and will take just the same route as we so we had a long conversation with him regarding routes, visa applications etc. He will wait a few days in Batumi for his brother who is hitch hiking there, but I think we will see Bartek again since he seem to ride quicker than we do.

Saying farwell to the Black Sea

Saying farwell to the Black Sea

When we finally left the gueshouse it was already 2 PM but since we only planned to ride 40 km to the village of Keda it didn’t really matter. We are waiting for an important e-mail and need to pay for our letter of invitation to Uzbekistan so we needed to find internet somewhere. The receptionist at our hostel said there are guesthouses at Keda so we planned to go stay at one of them and do all our internet business there.

Batumi isn’t big but we got lost on our way out. After asking a couple of people we finally found the road that leads up to the mountains. Georgia, and especially its hinterland, is cash country and to be on the safe side we stopped to get some more local currency at an ATM before leaving the last suburb.

Keda sits at 200 meters altitude and the road there was very good. It was never steep and there was not much traffic, but best of all was the surroundings that were wonderful. The road was in a valley with a little river in its midst and on both sides were farms growing wine. The steep hills on booth sides were covered with a lush forest with lots of oak trees and since there were so little traffic we could hear birds singing and bells from the cattle all the time.

There are several old bridges in the valley, all signposted as "historical bridge"

There are several old bridges in the valley, all signposted as “historical bridge”

Keda is straight to the east from Batumi and since we started late we had the sun in our backs and the during the late afternoon the sunshine made the valley look even more beautiful.

Right before Keda we stopped at a gas station. When we asked the staff where the guesthouses were they told us there weren’t any in Keda. That was bad news since we needed to find internet and for a while we considered to do the Turkish trick, i.e. to camp at the gas station but we decided to go on into the village center.

Keda was a small village, but big enough to have a roundabout in its center. We stopped there and I asked a police officer where the hotel was. He pointed at a pink house 50 meters away and we went there to ask at the restaurant on first floor. I tried to use my poor russian to ask if this was a hotel and the lady working there said ”no”….

The roundabout in Keda. It doubles as the village's gathering spot...

The roundabout in Keda. It doubles as the village’s gathering spot…

The only reason we wanted to stay at a guesthouse was to get to an internet connection but since there seemed to be no hotel or guesthouse in town we decided to camp and went to a grocery store next to the roundabout to buy some supplies. A rule of thumb is to always doublecheck any information and the lady in the store also she pointed at the pink house. When I told her we had been there but got a negative answer, she sent someone over to ask again. The runner soon came back and told us it was closed for some reason I never understood.

The whole town seemed to be engaged in our struggle to find a guesthouse and when we had already given up a man came walking and told us we could stay at a private homestay for 10 GEL each (40 SEK, 4.5 €). Since we only needed to check our e-mail and make a payment we asked if the homestay had an internet connection and he said yes.

Deal….

We walked to the homestay with the guy and he introduced us to the family and then left. An older man showed us to our room and where the bathroom was. He then said that we needed to pay 2 GEL each for showering. I didn’t feel a shower was necessary and I thought it was a bit expensive so we tried to negotiate and got it down to 1 GEL each.

Cooking at the balcony

Cooking at the balcony

When we had settled in our room we asked how to connect to internet. The man then turned on the large TV….. Not really our definition of internet. When two 10 year old girls (probably grand daughters arrived) they also said there was no internet and the computer they were playing games on was also not connected.
SONY DSC

So much fuss for nothing. But at least is was a cheap place to stay at and the view from the balcony was outstanding. We didn’t know if dinner was included so we fried the few eggs we had together with some salami at the balcony. Dogs are usually the biggest problem for cyclists, but cats can be a nuisance too. One cat bit off our computer cable and now the one in this house was feasting on our expensive salami that I left on a table in the room for a minute while cooking at the balcony.

Day 60 (Keda – camp at 1360 meters altitude)
Our breakfast consisted of coffe prepared at the balcony, youghurt and some sandwhiches with salami. The cat only ate a little part of it and we cut off a large chunk between where it had eaten before having what remained ourselves.

Saying good bye to our hosts

Saying good bye to our hosts

The family’s house was at about 220 meters altitude and the mountain pass some 75 km east is 2025 meters above the sea level. Our plan was to ride as high as possible during the day. We knew the road up to the last village would be good but from there everyone we talked to said it would be in bad connection.

The lower part of the valley is frequently visited by tourists.

The lower part of the valley is frequently visited by tourists.

The ride between Keda and Khulo was wonderful. In the beginning it was not steep at all – only slowly going upward. The scenery was breathtaking and we stopped many times to take photos and vide clips. The road was now no longer in the middle of the valley but on the side of the steep mountain surrounding it.

Soviet relics are present everywhere.

Soviet relics are present everywhere.

Somewhere between the two villages was a little chapel that had been restored and that nowadays is often used for weddings.

The renovated chapel

The renovated chapel

The large crucifix inside showed that our saviour had a very well developed 6-pack.

Schwarzenegger would be jelous of that 6-pack

Schwarzenegger would be jelous of that 6-pack

We don’t have a proper road map – we only use a simple one from the tourist information that we got second hand from someone at the hostel in Batumi. On our map Khulo is the last village before the pass and we decided to stay there to have lunch. Just as usual when we stop at the centre of a small village we were soon surrounded by curious men. One of them spoke very good German and he invited us to his restaurant.

Lunch at the wrestler's restaurant

Lunch at the wrestler’s restaurant

After taking our order he sat down to talk to us and we got the reason why he spoke so good German. He used to be a professional Greco-Roman wrestler and had competed for Stuttgart for 6 years in the Bundesliga.

The wonderful valley

The wonderful valley

When we left Khulo the road immediately got a lot worse. It was unsealed, full of potholes, fist size rocks and sometimes it was crossed by small creeks. It was still as beautiful as before and the cycling was very fun. We like to ride on this kind of roads and slowly climb towards higher altitudes.

View from where we cooked our dinner.

View from where we cooked our dinner.

What was the last village on our map was not the last village in reality. It seemed to be one very long village with houses along that road where ever it was flat enough to build one. This meant it was hard for us to find a spot to pitch our tent but we finally found a good spot. In order to not draw any attention we hid our bikes and luggage behind some trees and took our food and cooking gear and climbed up a hill where we could enjoy the sunset in the valley while cooking and eating our dinner.

Good night...

Good night…

Day 61 Camp at 1360 meters – Akhaltshike
When we woke up there was already some traffic on the little road below us. Children walked to school in the village further down and people leading their cattle out to the nearby fields. They all waved and smiled and used sign language to ask if we were going up our down.

Good morning...

Good morning…

When we started to roll it took us another 5-6 km of slowly climbing the poor road until we left the last settlements behind us. We were now at about 1700 meters altitude and the road got a little bit better.

Water is important….

Filling our water bottles at a tap outside someone's house.

Filling our water bottles at a tap outside someone’s house.

But sometimes it easier to find beer and vodka in places like this little stall…

One for the road....

One for the road….

Close to the pass we saw big constructions of a skiresort going on. Skilifts were already built and now they were building hotels and a better road. We wondered if it wouldn’t have been smarter to start by building a good road so that all material and equipment could be brought up much easier.

Skilifts ready before the road to bring up the tourists

Skilifts ready before the road to bring up the tourists

An old russian truck loaded with cows standing tight to each other overtook us slowly. 10 minutes later we overtook it when the driver had parked and were pooring water on the overheated engine. It then overtook us slowly again only to not long after see us overtake it again when the engine once again had gone too hot. This happened a few times and we felt we were racing to the top of the pass with this old truck and felt pity for the cows. It can’t be easy to stand up when the truck bumps into all those potholes.

The russian truck...

The russian truck…

The pass was above the tree line and as we got closer we found lots of snow that hadn’t yet melted.

Hopefully our last encounter with snow on this trip.

Hopefully our last encounter with snow on this trip.

At the top of the pass there were lots of activity going on. A group of men invited me to come and have vodka with them and I declined as politely as I could. There was also a little magazin (shop in russian) where we bought some eggs to make a lunch omelette. While we sat eating there 2-3 old drunk men kept coming to us and we think they asked for money. We are happy to make a contribution but not when it is obvious that the money quickly will be used to buy more vodka.

The sign showing the highest spot of this road

The sign showing the highest spot of this road

During more than a month in Turkey we only once saw someone who was obviously the local alcoholic and here in Georgia we a few everytime we stop in a village. Turkey is a secular society and people can drink if the wish to but maybe the religion has created a tradition of drinking less. If so, it is a good tradition because I think the number of people constantly unsober can’t be good for society.

A cute little boy who stood watching us throwing snowballs at each other just below the pass

A cute little boy who stood watching us throwing snowballs at each other just below the pass

Interior of the shop at the pass.

Interior of the shop at the pass.

It was now time to roll down the 20-25 km to the next larger village. The road was only slightly better on the other side and only for some parts. Normally riding down is easy but although we didn’t have to pedal it was hard work of constantly applying the breaks while balancing down the rocky road. After a while I started to get blisters in the fold between my thumb and index finger due to all the breaking.

A cow having a sniff at my front pannier

A cow having a sniff at my front pannier

Eventhough we like riding on poor roads we always it is always a nice feeling to get back to a smooth paved road again. The good road started at an altitude of about 1400 meters and from there we cycled the remaining 35 km to Akhaltshike in about 1.5 hours. Quite a different speed than we had got used to the last couple of days.

Wej on the way down from the pass

Wej on the way down from the pass

ตุรกี => จาก Trabzon (ทรับซอน) ไป Batumi (บาทุมิ) ประเทศจอร์เจีย

หลังจากได้สองพี่น้องตระกูลอัลทานพาลงมาที่ร้านอาหารที่นัดกับคนขับรถ เรานั่งกินข้าวกลางวันกัน ใจจริงอยากเลี้ยงเขา แต่ตัวเองยังไม่รู้ว่าอนาคตข้างหน้าเป็นอย่างไร จึงต้องแค่แชร์กัน ซึ่งเขาก็เริ่มจ่ายของเขาครึ่งหนึ่งก่อน เลยรู้สึกสบายใจเล็กน้อย เราคุยกันว่าเขาน่าจะมาเที่ยวสวีเดน ไปปั่นจักรยานและกางเต้นท์นอน เพราะอย่างน้อยเดนิซชอบท่องเที่ยวแบบนี้อยู่แล้ว ไว้ตอนนั้นเราค่อยทำอะไรให้เขาน่าจะดีกว่า

เราไปที่สำนักงานขายตั๋วรถทัวร์เพื่อไปเอาจักรยานออกมา ตั้งใจว่าวันนี้น่าจะปั่นได้สัก 50 กม. แต่ปรากฎว่ายางแบนล้อหน้ามั้ง 😉 แบนบ่อยเลยจำไม่ได้ว่าล้อไหน รู้สึกมันจะแบนได้เท่ากันละ ก็เลยจอด และ ปะ ด้วยความที่ต้องการติดต่อคุณสว่างที่บาทุมิประเทศจอร์เจีย เราเลยต้องไปแถว ๆ โรงแรมที่เราขึ้นไปดริ้งบนดาดฟ้าเมื่อวาน เพราะเคยได้รหัสมา ฝั่งตรงข้ามของโรงแรมเป็นจัตุรัสของเมืองที่เขากำลังมีงานรื่นเริงพอดี เกี่ยวกับฟุตบอล ปะ ๆ อยู่คนที่อยู่ในงาน มานั่งดูโจคิมปะ ช่วยสูบลม สักพักเดินหายไป อ่า..ไปเอาน้ำมิรินด้ามาให้ อืม..สดชื่น อีกแป๊บเดินไปเอาหมวก ปากกา ที่ทับกระดาษและพวงกุญแจ เอ่อ..ข้าพเจ้าไม่อยากแบกหง่า อีกสักพัก เอาชามาให้ดื่มอีก นี่ถ้าไม่เคลื่อนย้ายไปไหน ไม่รู้พี่เขาจะชวนไปนอนบ้านด้วยหรือเปล่า 😉 คุยกันก็ไม่รู้เรื่อง อยู่ ๆ แกเดินมาสะกิด ชี้ไปบนเวที ทำมือทำไม้ว่าไปถ่ายรูปกัน เอ้า..เอาก็เอา เดินกันขึ้นไปถ่ายสักสองแช๊ะ แล้วก็บอกให้เรารอสัก 10 นาที รอทำอะไรล่ะค่ะ อ่ะ..รอก็รอ เพราะตอนนั้นเราตัดสินใจว่าคงต้องค้างที่ทรับซอนอีกวันเพราะตะวันคล้อยเต็มทีละ หลังจากนั้น 10 นาที คุณพี่ก็เดินเอารูปใส่กรอบเรียบร้อยมาให้เรา

5-1 = โจคิมแบนไปแล้ว 5 ครั้ง ยางที่ปะไม่ดี มันรั่วจากรูเดิมที่เคยปะเมื่อคราวที่แล้ว แต่เราก็นับ นับทุกครั้งที่แบน ;-)

5-1 = โจคิมแบนไปแล้ว 5 ครั้ง ยางที่ปะไม่ดี มันรั่วจากรูเดิมที่เคยปะเมื่อคราวที่แล้ว แต่เราก็นับ นับทุกครั้งที่แบน 😉

เวทีนั่นแหละที่เขามาสะกิดให้ขึ้นไปถ่ายรูปกัน

เวทีนั่นแหละที่เขามาสะกิดให้ขึ้นไปถ่ายรูปกัน

จักรยานของโจคิมโดนเล่นงานบ่อยมาก เดี๋ยวยางแบน (ไม่รู้กี่ครั้งนับไม่ถ้วน 😉 เดี๋ยวก้านเกียร์หัก มาวันนี้ plug-in ที่ต่อเข้ากับไดนาโมล้อหน้าและสามารถชาร์ตแบตฯของจีพีเอสและเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่น ๆ ผ่านยูเอสบี ก็มาเสียอีก เราสามารถติดต่อกับคุณสว่างได้แล้ว และถามเกี่ยวกับเรื่องเกียร์ fiction ที่หัก ก็ได้คำแนะนำจากคุณสว่างให้ลองไปดูร้านที่ทรับซอน เพราะใหญ่กว่าบาทุมิ ปะยางเสร็จและแพ๊คของที่ระลึกทั้งหลายลงกระเป๋า เราออกเดินตามหาร้านจักรยาน หายากนิดนึง เพราะร้านอยู่ในตัวอาคารเข้าไปอีกหน่อย วนไปวนมากว่าจะเจอ ที่เจอนี่เพราะถามเขาอีกเหมือนกัน คนนี้ก็น่ารักมาก ถามปุ๊บเขาเดินพาไปส่งถึงหน้าร้านเลย

เข้าไปในร้านพูดไปชี้ไป รู้มั่งไม่รู้มั่ง พอดีมีลูกค้าคนหนึ่งเข้ามาดูจักรยาน เขาพูดภาษาเยอรมันได้ เลยพยายามสื่อเยอรมันแทน ดีนะที่โจคิมรู้ภาษาเยอรมันบ้าง ไม่อย่างนั้นก็คงใช้เวลาอีกนาน แต่ในที่สุดหลังจากที่เดินดูไปทั่วร้านก็เห็นเกียร์ที่สามารถใช้แทนกันได้ คุณภาพอาจจะไม่ดีเท่าแต่ทดแทนกันได้ก็ดีที่สุดแล้ว ไหน ๆ อยู่ที่ร้านแล้วก็ให้เขาเปลี่ยนซี่ล้อไปด้วยเลย ที่มันงอจากที่ซัมซุน ทำให้เสร็จ จะได้ไม่ต้องลุยเอง พอจ่ายตังค์ถึงรู้ว่าคุ้มจริง ๆ ที่ให้เขาทำให้ ค่าเซอร์วิสถูกมาก ที่นี่คิดแค่ 10TL ที่อิสตันบูลคิดตั้ง 50TL

คนใส่เสื้อลายสก๊อตเป็นลูกค้าที่คุยภาษาเยอรมันได้ พากันรุมจักรยานโจคิม

คนใส่เสื้อลายสก๊อตเป็นลูกค้าที่คุยภาษาเยอรมันได้ พากันรุมจักรยานโจคิม

แล้วก็ถึงเวลาตระเวณหาที่พักต่อ กลับไปโรงแรมตรงที่เราปะล้อละกัน ว่าจะเข้าไปต่อค่าห้องเขาหน่อย แต่ไม่ต้องเพราะเต็ม :-O แต่ความที่เป็นคนตุรกี เขาจับโทรศัพท์หมุนไปโรงแรมเพื่อนบ้าน เช๊คให้ว่ามีห้องว่างมั้ย ราคาเท่าไหร่ หันมาบอกเราว่าได้ราคานี้ พอถามเขาว่าไปยังงัย เขาทำมือเหมือนกับว่ารอก่อน อืม..รออะไรหว่า สักพักเห็นผู้ชายคนหนึ่งเดินเข้ามา เขาส่งภาษาเตอร์กิชกัน แล้วหันมาส่งสัญญาณให้เราตามเขาไป เป็นเซอร์วิสหรือเขากลัวว่าเราจะหลงไปโรงแรมอื่น หาทราบไม่ เอาเป็นว่าบริการของเขาละกันสบายใจดี

รวมอาหารเช้าด้วย โรงแรมนี้มีไข่ต้มเราเลยขอไข่ติดตัวไปด้วยคนละฟอง แยมคนละ 2-3 แพ๊ค สำหรับมื้อกลางวัน เพราะหนึ่งอยากจะประหยัด สองเราก็ไม่อยากกินอะไรเยอะ แค่แวะซื้อขนมปังกินกับแยม แล้วค่อยหนักตอนเย็นทีเดียว ช่วงที่ปั่น ๆ มาก็เห็นป้ายเขาโฆษณาขนมปังทรับซอน เขาว่ามันมีขนาดที่ใหญ่กว่าปกติ สามารถเก็บได้นานกว่าขนมปังทั่วไปและมีรสชาติออกเค็ม ๆ นิด ๆ หลังจากที่ซื้อมาชิมดูแล้วก็รู้สึกว่าเนื้อขนมปังจะแน่นกว่าธรรมดา มินาล่ะมันถึงได้แพงกว่าตั้งสองเท่า ตัดใจซื้อนะนั่น เพราะอยากรู้ว่ามันพิเศษอย่างไร เห็นโฆษณาตั้งแต่อยู่บ้านเพื่อนที่ซอนกูลดัคละ และตอนที่แวะปั้มกินขนมปังทรับซอน เราก็นั่งกินกันแอบ ๆ หน่อย เพราะไม่ได้ซื้ออะไรจากปั้มก็ไม่อยากไปนั่งเกะกะ พอดีเขาเดินผ่านเราก็ชวนเขา ”เป็นพิธี” เขาทำท่าเหมือนบอกว่าเขาอิ่มแล้วและขอบคุณ หลังจากนั้นไม่นาน เขาคนเดิมเดินกลับมาถามว่า … ทายออกมั้ยว่าเขาถามว่าอะไร …. ”ชัย???” = เอาชามั้ย? ลุทเฟ่น = ค่ะ เอาค่ะ จะไปขอชาเขาก็เกรงใจ เลยแกล้งทำเป็นชวนเขา เผื่อเขาจะเข้าใจว่าเรารอชาอยู่ 😉

ขนมปังของทรับซอนและแยมจากโรงงแรมพร้อมชาแก้วใหญ่กว่าธรรมดา

ขนมปังของทรับซอนและแยมจากโรงงแรมพร้อมชาแก้วใหญ่กว่าธรรมดา

กลางวันทานน้อยก็ไม่ต้องรอให้อาหารย่อย ดื่มชากันเสร็จก็ออกเดินทางต่อ ช่วงนี้ทำเวลาหน่อยเพราะอยากเข้าบาทุมิเพื่อไปเจอกับคุณสว่าง ติดต่อกันมานาน รู้สึกตื่นเต้นที่จะได้เจอคนไทยในต่างแดน รู้จากเสือออย – ศิรินทร์ คุ้มวงศ์ นักปั่นสาวไทยอีกคนที่ไปไหนไปกัน ว่าคุณสว่างมาพักอยู่ที่ทิบลิซิ ทำให้มีจุดมุ่งหมายและกำหนดเวลา ดีค่ะ ไม่อย่างนั้นก็เรื่อยเปื่อย คุณสว่างจะเดินทางขึ้นเขาและจะเข้ามาพัก 5-6 ที่เมืองบาทุมิ แต่จากทรับซอนปั่นวันเดียวไม่ถึงแน่ เราเลยปั่นให้ได้ระยะทางมากที่สุดเท่าที่แสงอาทิตย์เอื้ออำนวย พอเริ่มจะมืดเราเริ่มมองหาที่พัก เห็นป้ายเกสเฮาส์อยู่หลายป้าย แต่เงินตุรกีเหลือน้อยเต็มที ถ้าเขารับบัตรก็ดีไป แต่ไปถามที่ปั้มข้างหน้าดีกว่า แล้วเราก็มาจอดอยู่ที่ปั้มแห่งหนึ่ง ตามแผนคือเวชเข้าไปเช๊คห้องน้ำ พอเดินออกมาเห็นโจคิมกำลังเม้าท์อยู่กับผู้ชายคนหนึ่งที่มารู้ทีหลังว่าชื่อ ”ฮัคคั่น” เขาไม่ได้ทำงานที่ปั้มแต่มีเพื่อนหลายคนทำงานที่นั่น คิดว่าทุกเย็นเขาคงมานั่งเม้าท์กับเพื่อน โชคดีของเราที่วันนั้นเขามาอยู่ตรงนั้นและตอนนั้น เขาเริ่มคุยกับโจคิม อาจจะเป็นเพราะเขาทำงานด้านการท่องเที่ยว ทำให้รู้สึกสนใจการเดินทางของเราด้วยมั้ง เราถามเขาเรื่องขอกางเต้นท์เขาก็พาเราไปดูที่ทางทันที เสร็จแล้วก็ถามว่าเรากินข้าวหรือยัง? เอ่อ..พวกเรามีสปาเก็ตตี้กับปลากระป๋อง เขาเลยบอกว่าไม่ต้องทำหรอก ไปกินบ้านฉันละกัน อ่า..ลุทเฟ่น yes please !! แล้วเราก็นั่งรถเขาไปอพาร์ตเมนท์ซึ่งภรรยาของเขาเตรียมอาหารไว้แล้ว สุดยอด กินกันเสร็จแล้ว เขาก็ขับรถมาส่งเราที่ปั้ม

จุดกางเต้นท์ใต้บ้านโบราณอายุราวร้อยปี เคยเป็นที่เก็บข้าวโพด แต่ตอนนี้กลายเป็นที่สวดมนต์สำหรับลูกค้าและคนทั่วไป

จุดกางเต้นท์ใต้บ้านโบราณอายุราวร้อยปี เคยเป็นที่เก็บข้าวโพด แต่ตอนนี้กลายเป็นที่สวดมนต์สำหรับลูกค้าและคนทั่วไป

มื้อเย็นที่บ้านฮัคคั่น จานนี้แค่เริ่มต้น หลังจากนั้นถ่ายไม่ทันค่ะ หมดเสียก่อน

มื้อเย็นที่บ้านฮัคคั่น จานนี้แค่เริ่มต้น หลังจากนั้นถ่ายไม่ทันค่ะ หมดเสียก่อน

นั่งกินอาหารเช้าที่ปั้ม อืม..เหมือนมื้อกลางวันเมื่อวานเลย จุ๊ๆๆ เสื้อผ้าก็ชุดเดียวกัน ;-) หากินเองเลยไม่ค่อยหรูหราเท่าไหร่

นั่งกินอาหารเช้าที่ปั้ม อืม..เหมือนมื้อกลางวันเมื่อวานเลย จุ๊ๆๆ เสื้อผ้าก็ชุดเดียวกัน 😉 หากินเองเลยไม่ค่อยหรูหราเท่าไหร่

วันนี้เราตื่นกันเช้าเพราะอยากเข้าบาทุมิกัน ฮัคคั่นมาที่ปั้มแต่เช้าเพื่อมาร่ำลากัน เรานั่งกินอาหารเช้ากันก่อน หลังจากนั้นก็ปั่นกันค่อนข้างสบาย ตามลมนิด ๆ มาถึงที่เมืองที่ติดชายแดน พักกินข้าวกัน แต่ก่อนที่จะสั่งอะไร ต้องถามก่อนว่าจานละเท่าไหร่ กลัวมีตังค์ไม่พอจ่าย เราสั่งข้าวกับกับข้าวหนึ่งอย่าง เขาบอก 12 TL โอเค เอาอย่างนั้นแหละ แบ่งกันกิน พอจะไปจ่ายตังค์ เวชหยิบเงินออกมา เขาดึงแต่แบงค์ 10 ไปและบอกว่าโอเค เอ่อ..ขอบคุณค่ะ คงเห็นว่าเราเดินทางด้วยจักรยานคงไม่มีเงิน น่าสงสาร อืม..ยอม สงสารฉันเถอะ 😉

อาหารกลางวันที่เมืองใกล้ ๆ ชายแดนระหว่างตุรกีกับจอร์เจีย

อาหารกลางวันที่เมืองใกล้ ๆ ชายแดนระหว่างตุรกีกับจอร์เจีย

อีก 10 กว่ากิโลจะถึงจุดผ่านแดน มีอุโมงค์เยอะแยะ แต่อุโมงค์สุดท้ายทำเราประหลาดใจ เพราะพอโผล่ออกมาปุ๊บก็เป็นทางผ่านเข้าจอร์เจียเลย อ้าว..ยังไม่ได้ใช้เงินตุรกีที่เหลือเลย เห็นมีร้านขายของชำอยู่เลยไปดูว่าเงินที่เหลืออยู่เท่านี้จะซื้ออะไรได้บ้าง สรุปว่าได้โค้ก 1.5 ลิตร ขนมปัง ช๊อคโกแลต 2 อัน

เดินไปซื้อด้วยเงินตุรกีทั้งหมดที่มีอยู่ เทให้หมดกระเป๋าเลย แล้วก็มานั่งพักกันตรงนี้ก่อน ชมวิว

เดินไปซื้อด้วยเงินตุรกีทั้งหมดที่มีอยู่ เทให้หมดกระเป๋าเลย แล้วก็มานั่งพักกันตรงนี้ก่อน ชมวิว

เวลาผ่านเข้าแต่ละประเทศ เราจะปั่นจักรยานเข้าทางที่รถยนต์บุคคลเขาขับกัน แต่ที่จอร์เจียนี่เขาให้เราเข้าไปทางที่คนจะเดินกัน มันไม่มีคนเนอะ เราเลยปั่นจักรยานช้า ๆ เข้าไป หลังจากที่ได้ประทับตราและผ่านด่านของจอร์เจียเข้ามาแล้วก็เห็นความแตกต่างว่าถนนในจอร์เจียแคบกว่าที่ตุรกีเยอะมาก เป็นธรรมดาเพราะตุรกีเจริญกว่าเยอะ ปั่นเข้ามาได้หน่อยก็เห็นพิพิธภัณฑ์กลางแจ้งสมัยโบราณ เสียดายที่เขาปิดพอดี เลยปั่นต่อไปบาทุมิ เราปั่นตรงไปที่กโลบุส โฮสเทล ตามที่คุณสว่างเคยส่งลิ้งค์มาให้ คุยกันผ่านอินเตอร์เนตมาตั้งนานในที่สุดก็ได้พบกัน เรานั่งสนทนาแลกเปลี่ยนข้อมูลข้อคิดเห็นกันเกือบสองวันเต็ม เสียดายที่เรามาช้าไปหน่อยเพราะคุณสว่างจะเดินทางกลับไปทิบลิซิ แต่ก่อนแยกย้ายกันไป เราไปทานอาหารจอร์เจียกัน ได้รสชาติมากและอร่อยกว่าธรรมดาในเมื่อได้เพื่อนคุยสนุกเต็มไปด้วยเนื้อหาข้อมูลที่เป็นประโยชน์สำหรับเราในเส้นทางข้างหน้า และหวังว่าวันข้างหน้าเราจะได้ปั่นกับคุณสว่างไม่เส้นทางใดก็เส้นทางหนึ่งละนะ

หนุกหนานกันขนาดไหนดูจากภาพเอาละกันนะค่ะ

หนุกหนานกันขนาดไหนดูจากภาพเอาละกันนะค่ะ

ที่จอร์เจียนี่เราไม่ต้องขอวีซ่า แต่หลังจากประเทศนี้ไปเรื่องวีซ่าจะเป็นหัวข้อหลักที่ทำให้เราปวดหัว ต้องนั่งคิดนั่งวางแผนโดยเฉพาะวีซ่าเข้าจีน แทบจะทุกคนที่เดินทางด้วยจักรยานต้องแสร้งทำจองตั๋วเครื่องบิน ห้องพักโรงแรมเพื่อให้ได้วีซ่า หลังจากได้วีซ่าก็จะยกเลิกทุกอย่างที่จองไว้ เมื่อวันก่อนเราเพิ่งได้วีซ่าของประเทศอัซเซอร์ไบจาน สะดวกมากเพราะที่นี่เขาไม่ต้องการเอกสารอะไรมาก นอกจากแบบฟอร์มก็มีสำเนาพาสปอร์ตและรูปถ่ายตามปกติ

หลังจากคุณสว่างออกเดินทางกลับทิบลิซิแล้ว เราก็วุ่นอยู่กับการกรอกแบบฟอร์มขอวีซ่าเข้าจีน ช่างน่าปวดหัว แต่หลังจากที่เรากรอกและส่งพาสปอร์ตไปแล้ว รู้สึกโล่งไปนิด นิดนึงเท่านั้นเอง เพราะจะให้โล่งจริง ๆ ก็ตอนที่ได้วีซ่าอยู่ในมือนั่นแหละ

เราไปรับวีซ่าของอัซเซอร์ไบจานแล้วก็เดินต่อไปเล่นน้ำฉลองกันที่ชายหาด ชายหาดที่นี่เป็นหินก้อนค่อนข้างโต วันนั้นแดดแรงมาก แต่ในน้ำยังเย็นนิด ๆ พอขึ้นจากน้ำยังไม่ทันได้นั่งลงตัวก็เกือบแห้งล่ะ ดีที่ไปเล่นน้ำกันวันนั้นเพราะวันต่อมาลมแรง เหมือนเป็นพายุ และวันนี้ฝนก็ตกและคาดว่าพรุ่งนี้ก็จะตกตอนที่เราจะปั่นไปทิบลิซิ ก็ดีที่ได้อยู่ในเมืองตอนที่มีอากาศดี ๆ

เล่นน้ำเสร็จแล้วไปเดินเล่นในเมืองต่อ

เล่นน้ำเสร็จแล้วไปเดินเล่นในเมืองต่อ

ถ้าอยากดูภาพในเมืองอีกหน่อยลองเข้าไปดูในบล๊อคโจคิมที่เป็นภาษาอังกฤษนะค่ะ

Day 57-58 Trabzon – Batumi

Access to internet is becoming increasingly scarce so you shouldn’t count on daily updates anymore. We will update as soon as we have a chance. Tomorrow (Sunday)) we will leave Batumi and cycle towards Batumi over the mountains which will take about five days.

Exit Turkey and entering Georgia – country number 8 on this trip
We were slightly behind schedule due to that we spent the previous afternoon after visiting Sümela to look for a bike shop and fix my spoke and shifter. With a steady tailwind and flat road we decided we wanted to go for Hopa almost 170 km away. Our friends in Zonguldak have relatives there who had promised to host us.

When we went down to the hotel’s garage to pick up our bikes we found that my tyre was flat again. I now know why – useless glueless patches – and I quickly changed to a new innertube and will repair the old one as soon as I have got hold on some proper old style patches.

By cycling along the turkish Black Sea coast we have learnt by using our own eyes what products come from what part of the country. We have passed the garlic capital in Tasköpru, the brick factories at Boyabat, the rice growing areas around Duragan, the hazelnut zone around Trabzon and as we went further east we entered an area where which supply most of Turkey with tea. The steep hills were covered by tea plants and trucks that overtook us were loaded with tea and on the road we could see tea leaves that had fallen off those trucks.

Tea plantations

Tea plantations

Bread is called ”ekmek” in Turkish and we have started to call it that when we speak to each other. ”Please pass me some ekmek” or ”do we need to buy any ekmek?” are phrases we use among ourselves. Ever since we left Istanbul we have passed bakeries with signs telling that they sell ”Trabzon Ekmek”. It must be something special and when we were in Trabzon we finally found out what it was. Trabzon bread is a huge round loaf of bread that is as big as at least 5 normal loaves. Since we couldn’t eat that much ourselves and thus never bought any. We were however told it has a slightly sour taste and stays fresh longer than normal bread. Maybe it’s made of sourdough…

The ride east from Trabzon was very smooth and we proceeded at high speed and when we found a bakery that sold small size Trabzon breads we immediately stopped to buy some. We couldn’t leave Trabzon without having tried the famous Trabzon Ekmek… 🙂

Whenever we stay at a hotel we stock up on those little jam, butter and hazelnut packages that are usually provided at the breakfast buffets. They are perfect for our needs since they are (1) free, (2) portion size, (3) hard to break and (4) if one breaks only a little jam is spread around in our luggage.

A small size Trabzon bread and jam from the hotel

A small size Trabzon bread and jam from the hotel

After having ridden for a few hours we decided it was time for lunch and stopped at a gas station. We sat down outside and started to eat our Trabzon bread with butter and jam from the hotel when the gas station attendant saw us and hurried to serve us some tea. This kind of generosity and hospitality is something we will always associate Turkey with.

Just like elsewhere in the world there are often exercise equipments placed in Turkish parks and public places. When riding east on the big Black Sea highway we bumped into this place. Not a park and only a two different training equipment, but with a nice view of the Black Sea.

Mini gym with seaview

Mini gym with seaview

In central Europe most gas stations had a open wifi network without password for visitors to use. In Turkey they also have wifi internet, but the staff at the gas stations rarely know the password. We wanted to get in touch with our friends in Zonguldak to arrange for our arrival to Hopa, but we had problems finding any internet connection. The sms text messages we sent didn’t seem to get through either so we decided to try to find a camping spot instead.

Gas station staff

Gas station staff

We went in to a gas station some 35 km short of Hopa in hope of finding a spot to pitch our tent. We were soon surrounded by staff and some hangarounds and a few minutes later we had a glass of tea each in our hands. One of the guys spoke very good english and he asked us where we were going and where we would stay tonight. We said we wanted to pitch our tent and asked if it was possible somewhere around the station. A few minutes later the manager came out and showed us where we could put it.

Gas station at night

Gas station at night

Most gas stations in Turkey have a room for prayer and so did this one, but here it was a rather unusual place. The station had brought in an more than 100 year old barn from the mountains that used to a corn storage.

Old corn barn turned into room for prayer. Note our tent under it.

Old corn barn turned into room for prayer. Note our tent under it. Wej is sitting inside it.

The century old barn on pillars with beautiful details carved into the old wood had now been turned into a room for prayer and we were told to camp under it.

Camping under the to prayer room turned corn barn

Camping under the to prayer room turned corn barn

We were then asked if we had eaten any dinner yet and when we replied no, Hakan (the guy who spoke English) invited us to his home for dinner. We all jumped into his car and went to his house to have a wonderful dinner that his wife had prepared. Turkish hospitality again…… 🙂

Detail from the corn barn

Detail from the corn barn

The following morning we had the what was left of our Trabzon ekmek for breakfast and headed east. Since we couldn’t get in touch with our friends’ friend in Hopa we decided to continue towards Batumi in Georgia.

Turkish desserts are wonderful and when we saw a cafe we stopped to have a last taste of it before leaving Turkey. Next to the cafe was a bakery that was run by the same owner who invited us to come and take a look.

The owner of the bakery took us on a tour around his bakery

The owner of the bakery took us on a tour around his bakery

It was now time to leave Turkey which is a country we have started to like very much and that we certainly will return to both to visit friends and travel. We have liked the people, the hospitality we have received, the food and the interesting sights we have seen.

The variation that makes Turkey rich. A minaret and a beer shop side by side.

The variation that makes Turkey rich. A minaret and a beer shop side by side.

The border area to Georgia looked like an airport terminal and we stopped to buy some chocolate to finish our remaining turkish currency.

Interesting architecture at the Georgian border control

Interesting architecture at the Georgian border control


Normally when we pass a border we choose the lane the cars go rather than the lane for trucks. This time we were told to through the corridor where the bus passengers walk. There was hardly anybody there so we cycled through it. See the short video clip below.

Batumi was only 16 km from the border and it was a quick ride on a road that was a lot smaller and not as well maintained as the one we had been riding on in Turkey. Only a few kilometers after the border we passed Gonyo which is a millenium old Roman fortification. It looked very well preserved and resembled any any of the roman forts in the Asterix cartons. Unfortunately it was closed so we continued towards Batumi city.

Where are Asterix and Obelix???

Where are Asterix and Obelix???

We aimed straight for the Globus Hostel in the city center where we knew Sawang Thongdee who is another thai cyclist was staying. After checking in to a 20 bed dormitory we went out to have dinner with Sawang and it was very nice to meet someone from Thailand again.

Sawang is an experienced cyclist and has cycled the Karakhoram Highway, Iran, China, Pakistan, Centralasia, Turkey, Armenia and many more countries we dream about and now he was spending two months to dig deep into Georgia.

Sawang Thongdee is an experienced touring cyclists

Sawang Thongdee is an experienced touring cyclists

Sawang had already been in town for a couple of days after a side tour up to the great Caukasus mountains and he brought us to a nearby restaurant where we could have some interesting local Georgian food. For Wej it was great to sit down to talk to someone from her own home country and although I am not Thai, when meeting Sawang I got the feeling as when running into a countryman at a far away place overseas.

Georgian sallads. Tasted wonderful and we hope will have more soon.

Georgian sallads. Tasted wonderful and we hope will have more soon.

Pork is not eaten in Turkey, but in Georgia there is plenty of it and the georgians know how to cook it….

"Shaslyk" (barbecued) pork

“Shaslyk” (barbecued) pork

We have now entered the visa hassle zone. The number one discussion topic among fellow travelers is how and where to obtain visas. We haven’t needed any visas so far, but we we would need one for Azerbadjan which has tightened its visa policy during the last few years. However, the rumours said that getting a visa at the consulate in Batumi would be easy and the following morning we went to the consulate to try our luck.

The guy at the consulate was very laid back. He sat smoking and playing computer games in his little office when we arrived. When asked what documentation we needed he told us, 1 photo, 1 passport copy, the application form and 150 GEL (approx. 65 €). He told us to come back on Friday and we asked if we could get it on Thursday instead and then he replied ”sure”.

When picking up the visa he didn’t even look at our application forms. He asked what day we wanted to go, filled in the sticker and put it in our passports. Simple and no need of expensive and hard to get letters of invitation.

We have then spent two days relaxing and discovering Batumi which is filled of hotels and resorts. Now it is a bit empty, but when the summer season starts it will be very crowded. I don’t like swimming in cold water and when we stepped into the Black Sea in Sile a few weeks ago the water was definately too cold to swim in. Now it had got better and I went into the water of the Black Sea for the first time ever.

The beach in Batumi consists of small round stones. Many people prefer sand but I prefer these stones because you won’t get any sand between your toes or into your ears 🙂 They were however very hot to lay on during the mid day heat.

On the beach in Batumi

On the beach in Batumi

Wej cooling down in the water of the Black Sea

Wej cooling down in the water of the Black Sea

Between the city center and the beach is a long park called "Boulevard". There are restaurants and a chess club

Between the city center and the beach is a long park called “Boulevard”. There are restaurants and a chess club

A skyskraper not far from the beach.

A skyskraper not far from the beach.

A sculpture in the Boulevard park.

We are not the only ones who have come here by bicycle. Statue in the Boulevard park.

Colorful buildings in the center

Colorful buildings in the center

Designer garbage bin...

Designer garbage bin…

A Batumi street at dusk

A Batumi street at dusk

Day 56, Trabzon city and Sümela Manastir

We were a group of five cyclists who had cycled together for two days but now it was time to split. Nick and Arthur had a tight schedule and needed to move on. Tom needed a rest and had decided to take a day off while we didn’t need any rest day, but since we wanted to pay a visit to the nearby Sümela Manastir we decided to stay a day too.

We woke up late and since we had good company we left later than planned and missed the bus to the monastery that clings to the rocks. Instead of visiting a site of major cultural importance we spent the day walking around in Trabzon city.
It is maybe a shame to say, but we went into a MacDonald’s restaurant. Not that we missed hamburgers and fries, but sometimes we want to re-live old memories.

When Wej and I lived in Bangkok in the mid 1990:s good coffee was scarce and the only coffee with acceptable taste and price was the coffee at MacDonald’s. Wej worked in a town two hours outside Bangkok and every Sunday when she would leave we went to MacDonald’s to have coffee, a strawberry sundae and a medium size french fries. This odd combination has stuck and we sometimes we go to a MacDonald’s to have our own special menu – this time it happened in Trabzon.

Outside the MacDonald’s there was a big event going on at the city square. We went to take a look and it seemed to be some sort of combination of cultural exhibition and travel fair and all neigbouring countries were represented. There were dance shows on stage and food stalls with food from those countries.

Women selling food and sweets at the fair

Women selling food and sweets at the fair

As we walked around the fair we spotted a thai flag and when we got closer we saw that Thailand was represented too. Wej told me she had got eye contact with the girl behind the counter and we waited until she was free to talk to us. She told us she and her fellow student friend had got a scholarship to come to study international relations at the university of Trabzon. Since she was busy we only had a short chat. After exchanging e-mail addresses and we continued to explore the city.

Wej and the two Thai students at Trabzon university

Wej and the two Thai students at Trabzon university

Trabzon is a busy city located on steep hillsides. Where ever we went it was either up or down. We had no real plans for what to see so we just went around to have a look of the city life. The main shopping street looked like anywhere else in the world.

Main shopping street in Trabzon

Main shopping street in Trabzon

In the market zone the lanes were narrow and just as anywhere else in Turkey there were people walking around and distributing tea to the shops – just like when I got my tea at the barber shop a week or so ago.

A tea distributor balancing his tray with tea glasses through the crowd

A tea distributor balancing his tray with tea glasses through the crowd

Just like in Thailand large crowds of people attracts food vendors. This guy sold steamed corn from a cart in the middle of the busy walking lane in the market. I am not so fond of steamed corn but Wej had some difficulties to decide if she wanted one or not.

Vendor selling steamed corn

Vendor selling steamed corn

Commerce is going on everywhere, even in the underground passes under the highway.

Busy pedestrian tunnel under the highway

Busy pedestrian tunnel under the highway

It was a hot afternoon and after having walked around town we needed to sit down and relax for a while. What could then be better than the cafe and bar at the roof top terrace on one of the hotels? We took the lift up to the 7th floor. I ordered a beer and Wej had some coffee while we enjoyed relaxing in some nice chairs enjoying the view of the sea and the busy city center below us.

Relaxing with a beer while enjoying the view of the Black Sea and the city centre

Relaxing with a beer while enjoying the view of the Black Sea and the city centre

After a long day in the city of Trabzon we took a minibus back to the suburb where our hotel was. I wanted to buy a beer for me and Tom who relaxed at the hotel so we dropped by a store selling alcohol. Everytime I have bought a beer I have got it wrapped in old newspaper and put in a black plastic bag. Other things we buy are usually put in white or transparant bags but not beer. I have no idea, but if the purpose is to make it difficult for others to see what you have in your bag, then it doesn’t work. You only need to look for who is carrying a black bag…..

What's in that black plastic bag???

What’s hidden in that black plastic bag???

It was a cheap hotel that certainly had seen its best days, but it was cheap and certainly good enough for us. The bathroom was in need of an urgent renovation though and it seems like they already had started by replacing the lids to the ventilation with these colorful things. I wonder if the rest of the bathroom will have the same color tone once it is renovated.

Lids to the ventilation pipes

Lids to the ventilation pipes

When we woke up the next morning we checked out early and hurried into town to buy bus tickets to Sümela Manastir. We were allowed to park the bikes in a room behind the ticket counter and off we went.

Sümela Manastir is a very old monastery that has been built on the cliffs and partly carved into it. It is a famous tourist attraction only some 45 minutes with a minibus from Trabzon.

Sümela Manastir seen from the approaching road

Sümela Manastir seen from the approaching road

When we arrived we discovered that the place was crammed with people. Today was a Saturday and Monday was a national holiday so it felt like half of Turkey’s population had chosen to visit Sümela this day. We blamed ourselves for not having understood that it would be like this and pushed ourselves to go yesterday as planned.

Crowded, an the only way in an out is the staircase on the right of the photo

Crowded, an the only way in an out is the staircase on the right of the photo

All visitors had to pass a narrow staircase down to the courtyard. We were in the middle of it when it started to rain. The monastery sits at about 1200 meters altitude and we later learned that it rains 300 days per year. If we had only known this we would have brought our rain jackets…. 😉

Lots of visitors at the Sümela Manastir

Lots of visitors at the Sümela Manastir

Sümela has huge mural paintings both inside and outside the main chapel. These murals were covered by names and dates carved into them with some sharp pointed tools. It looked like graffiti and I later learned that the culprits were bored soldiers from various armies and periods as well as some early tourists who seem to have no respect for a culturual treasure like this one.

Tragic graffiti on old murals

Tragic graffiti on old murals

The driver of the minibus had left us at convenient walking station and told us that the bus would leave 1.30 from the restaurant. We didn’t understand much and when it was time to go we saw some of the Turkish people who had come with the same bus and asked them where to go. They told us to follow them and we started to talk on the steep zig-zag walking track down to the restaurant. The woman introduced herself as Deniz. She works as a teacher in Samsun and had come to visit her brother Mehmet who is a medical student in Trabzon.

Wej and our new friend Deniz on the steep trail down from the monastery

Wej and our new friend Deniz on the steep trail down from the monastery

Just like at similar places everywhere there are expensive restaurants nearby. We had a nice köfte (meatballs) lunch with Deniz and Mehmet before going back to town. When I got my bike back I discovered I had got my 6th flat tyre. Instead of riding out of town we decided to stay one more night in Trabzon and fix all our technical problems which you can read about in the post ”Technical issues in Trabzon” below.

The köfte lunch (grilled meatballs)

The köfte lunch (grilled meatballs)

ตุรกี => จาก Giresun (กีเรอซุน) ไป Trabzon (ทรับซอน)

เมื่อคืนพอจัดแจงกางเต้นท์ อาบน้ำ เอ่อ..ห้องน้ำที่ตุรกีเป็นแบบนั่งยอง ๆ เหมือนบ้านเรา นั่นก็ทำให้เราสามารถอาบน้ำได้โดยที่ไม่ต้องกลัวว่าห้องน้ำเขาจะเปียก แต่อีกสามคนไม่อาบกัน เขาคิดว่ากระบวยตักน้ำสกปรก แต่เวชกะโจคิมคิดว่าเราสกปรกกว่าถ้าไม่อาบต่างคนต่างความคิด ดีที่ไม่ได้นอนเต้นท์เดียวกัน แฮ่ๆๆ ชำระร่างกายกันแล้ว เราก็เริ่มทำอาหารกินกัน เริ่มด้วยทอมหมักปลาด้วยเครื่องเทศสารพัดที่เขาขนมา ซึ่งใส่ในขวดแก้ว ขนาดเวชจะเอายาหม่องของแม่มาด้วย ยังอุตส่าห์แคะมันออกมาใส่ในกระปุกพลาสติคแทน นี่พี่ทอมแพ๊คมาแบบครึ่งโหลเลยอ่ะ นับถือ!! แต่ให้เราถือมาด้วยคงต้องคิดดูอีกหลายตลบ ขนาดถุงเท้าเรายังชั่งดูว่าคู่ไหนหนักกว่ากันเลย คงไม่ต้องคิดว่าจะแบกกระปุกแก้วมาด้วยแน่ ทอมน่ารักมาก เขาทำอาหารให้พวกเรากินกันก่อนและของเขาทำทีหลัง มื้อนี้พิเศษหน่อยคือมีทอมมาทำให้กิน ได้กินปลาที่ได้รับการปรุงอย่างดี เสร็จภารกิจแล้วทุกคนก็เข้านอน เท่านั้นเอง ก็ได้ยินเสียงฝนแปะ ๆ ๆ ๆ มาเรื่อย ตอนนั้นก็นอนจินตนาการไปไกลแล้วว่าถ้ามันตกหนัก ๆ นี่น้ำจะท่วมเข้าเต้นท์หรือเปล่าน้อ ที่คิดอย่างนี้เพราะเรากางเต้นท์กันบนพื้นกระเบื้อง ซึ่งน้ำจะไม่ซึมแต่จะนองแทน แต่ด้วยความเหนื่อยก็ปล่อยให้ความคิดล่องลอยเลือนหายไป มารู้สึกตัวอีกทีก็โจคิมมาสะกิด “เก็บถุงนอนดีกว่า” เพราะมันเป็นขนเป็ดที่ไม่ควรเปียก ของทุกอย่างย้ายไปย้ายมา แต่มีใบหนึ่งจะมีแต่เสื้อผ้าของใช้ที่เปียก ของเรายังเก็บทัน แต่เห็นนิคเอาถุงนอนออกมาบีบน้ำได้เลย แล้วเราก็เลยสรุปกันว่าคืนนี้ควรจะเช็คอิน นอนโรงแรมหรือเกสเฮาส์ถูก ๆ แล้วหาที่ตากอุปกรณ์เครื่องนอน เพราะของเราก็ไม่ใช่ว่าแห้งสะทีเดียว

ที่กางเต้นท์ตรงระเบียงของปั้มตอนเช้าเขายังมาตะโกนเรียกให้ตื่น ภาพนี้หลังจากที่พยายามเก็บถุงนอนและของใช้อื่น ๆ ที่ไม่ควรเปียกน้ำ

ที่กางเต้นท์ตรงระเบียงของปั้มตอนเช้าเขายังมาตะโกนเรียกให้ตื่น ภาพนี้หลังจากที่พยายามเก็บถุงนอนและของใช้อื่น ๆ ที่ไม่ควรเปียกน้ำ


เราเก็บข้าวของเสร็จแล้ว แต่พวกเขายังอีกสักพัก เลยขอตัวออกไปก่อน เพราะรู้สึกว่าพวกเขาปั่นกันเร็วกว่าเรานิดนึง มาเช็คทีหลังเห็นว่าความเร็วต่างกันแค่ 1 กม. เขาปั่น 27 ส่วนเรา 26 กม./ชม. และอีกอย่างคือปั่นกัน 5 คนมันเยอะเกิน มีครั้งหนึ่ง อาเธอร์ซ่าไปนิด ริจะดูดตามหลังรถบรรทุก ปรากฎว่าล้มค้าบบบ เพราะขณะที่เขาเอื้อมมือจะไปจับท้ายรถ เสียหลักเลยล้มกลิ้งไป ดีที่เจ็บไม่มากและจักรยานก็ไม่มีปัญหา จัดโซ่หน่อยก็ไปกันต่อ ประมาณ 10 กม.ข้างหน้า เราจะแยกทางกันแต่ก็ไปเจอกันข้างหน้า เพราะทางที่เราเลือกนั้นเป็นทางเรียบต้องลอดอุโมงค์ที่ยาวที่สุดในตุรกีคือ 3 กม.แต่ก่อนที่จะลอดเข้าอุโมงค์ที่ยาวที่สุด ล้อหลังโจคิมแบน อีกแล้ว ครั้งที่สี่ เอ..ถ้าแบนเพราะที่เคยปะไว้ไม่ดีจะนับมั้ยนะ? ควรจะนับเนอะ เราจะได้ชนะโจคิมขาดลอย 🙂 4-0

ช่วงนี้ไม่ค่อยถ่ายรูปกัน เพราะทางเรียบถนนใหญ่อยากไปกันเร็ว ๆ จะหยุดก็เฉพาะตอนที่ต้องเข้าอุโมงค์ เพราะต้องเปิดไฟท้าย ถ้าอุโมงค์ยาวเป็นกิโลก็จะใส่เสื้อสะท้อนแสงอีกตัว รู้สึกปลอดภัยดียอมร้อน หลัง ๆ มานี่ในอุโมงค์มักจะมี เฮ้อ…เขาเรียกไรหว่า ที่มันเป็นก้อน ๆ สี่เหลี่ยมบ้างกลม ๆ บ้าง ตรงใกล้ ๆ ฟุตบาธ เหมือนเตือนพวกรถยนต์ว่าขับใกล้ฟุตบาธเกินไปแล้ว มันใหญ่ประมาณเท่ากำมือ แค่เห็นก็หนาว ต้องพยายามไม่ปั่นไปแตะมัน อาจเสียหลักได้ ตื่นเต้นน่าตกใจดี แฮ่..

เห็นว่าไม่ค่อยมีรถเลยขอแช๊ะสักภาพในอุโมงค์ แต่อู่นี้ไม่มีเจ้าก้อนสี่เหลี่ยมที่เวชพูดถึงเนอะ เสียดายไม่มีให้เห็นแต่ก็ดีที่ไม่มีที่สถานที่จริง ;-)

เห็นว่าไม่ค่อยมีรถเลยขอแช๊ะสักภาพในอุโมงค์ แต่อู่นี้ไม่มีเจ้าก้อนสี่เหลี่ยมที่เวชพูดถึงเนอะ เสียดายไม่มีให้เห็นแต่ก็ดีที่ไม่มีที่สถานที่จริง 😉


เวลาเราแวะปั้มต่างคนต่างวิ่งไปหาซื้อของกิน เห็นทอมยืนรออะไรยู่ที่หน้าตู้ขายอาหาร เลยไปดู อ่า..เขารอซื้อชี้คคืฟเตอะ มันคือถั่วชนิดหนึ่งเอามาบด ใส่เครื่องเทศแล้วนวด ๆ ให้เข้ากัน ดูในกาละมังน้อย ๆ ของเขาแล้วนึกถึงถาดขายเครื่องแกงบ้านเรา แต่ที่ตุรกีนี่เขาเอามาใส่ในในขนมปังแผ่นบาง ๆ วางเป็นก้อน ๆ แลวเอาผักวางม้วนยาว ๆ เหมือนโรตี เลยซื้อมากินมั่ง เราปั่นออกมาก่อนตามเคย แต่เราก็นัดกันว่าจะปั่นกันประมาณกี่กิโลและกี่โมงถึงจะหยุด เรามาหยุดที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งที่คิดมาสะดวกกับเขาที่จะเห็นเราและจอดจักรยานได้ง่าย เราสั่ง “พิเด้” มันคือเตอร์กิชพิซซ่ามาแบ่งกันกิน เพราะเที่ยงกินเยอะไม่ไหวจะหลับเอา
พิเด้ ร้านนี้อร่อย และไม่เคยเห็นที่ไหนที่เขาทำแบบยาว ๆ อย่างนี้มาก่อน กรอบอร่อย

พิเด้ ร้านนี้อร่อย และไม่เคยเห็นที่ไหนที่เขาทำแบบยาว ๆ อย่างนี้มาก่อน กรอบอร่อย


วันนี้ตามลมปั่นสบาย ๆ ได้ระยะทาง และที่ปั้มสุดท้ายนี่เองที่เรารอพวกเขาทั้งสามคนแล้วปั่นเข้าเมืองพร้อมกัน เมื่อวานเราตัดสินใจว่าจะนอนตามเกสเฮาส์ เพราะฉนั้นก็ควรจะเช็คหาที่พักก่อนที่จะเข้าเมือง ตอนที่กำลังมอง ๆ หาที่พักกันอยู่ อ้าว..ล้อหน้าเวชฟีบ ๆ แบน ๆ ไปเสียแล้ว โจคิมตีไข่แตกแล้ว 4-1 เราเลยอยู่เฝ้าจักรยานและปะล้อไปด้วย พวกเขาเดินหาที่พักได้ราคาคนละ 25TL ใช้ได้ถูกดี ห้องก็โอเค มีที่จอดรถจักรยานและยังสามารถกางเต้นท์ที่เปียก ๆ ให้แห้งได้ด้วย
ล้อหน้าเวชแบนเป็นครั้งแรก โจคิมตีไข่แตกแล้ว ตอนนี้ 5-1 ยางเวชแบนจากลูกแม๊กซ์เพราะเข้าใกล้ความซิวิไลซ์หรืองัย ;-)

ล้อหน้าเวชแบนเป็นครั้งแรก โจคิมตีไข่แตกแล้ว ตอนนี้ 5-1 ยางเวชแบนจากลูกแม๊กซ์เพราะเข้าใกล้ความซิวิไลซ์หรืองัย 😉


กว่าทุกคนจะอาบน้ำและพร้อมที่จะออกไปกินข้าวกันก็ดึกอีกแล้ว แต่ร้านอาหารที่ตุรกีเปิดค่อนข้างดึก เราสั่งอาหารง่าย ๆ กินกัน ที่เรากางเต้นท์เมื่อคืนทอมซื้อไอศครีมฝากทุกคน กินกันหลังอาหารเย็น และอีกปั้มหนึ่งอาเธอร์ก็เอาไอติมมาแจกทุกคนอีก คืนนี้หลังอาหาร พวกเราเลยขอเลี้ยงขนมหวานตุรกีเขา อิ่มกันไป มันเจริญอาหารเนอะ เวลาที่ได้นั่งกินไปด้วยคุยกันไปด้วย เวลามันผ่านไปอย่างรวดเร็ว เช๊คบิลเรียบร้อยแล้ว ออกไปเดินเล่นกันนิดหน่อย เจอร้านขายขนมหวานอีกแล้ว อาเธอร์กับเวชเหมือนกันตรงที่เห็นของหวานไม่ได้ อิ่มแล้วแต่ขอเข้าไปดม ๆ หน่อยก็ยังดี เขาก็เชียร์ให้ซื้อ ร้านแรกอดใจได้ ร้านที่สอง เอ้า..ลองสักสองชิ้นถึงแม้จะบอกเขาว่าเราอิ้มอิ่ม พอจะจ่ายตังค์เขาว่าเอาไปชิมละกันฉันให้ โห้ย..อะไรจะใจดีขนาด นี่ของขายนะยังมีการให้กินกันฟรี ๆ อีก อาจจะเป็นเพราะว่ามันดึกแล้วก็ได้นะ

เช้าวันรุ่งขึ้นนิคกับอาเธอร์เดินทางต่อ เพราะอาเธอร์มีเวลาน้อย อีกอย่างพวกเขาอยากปั่นขึ้นเขาตามเส้นทางที่คุณสว่างเคยส่งลิ้งค์มาให้พวกเราคือขึ้นเขาเมสเทีย ยังไม่ได้ข่าวจากเขา ไม่รู้ปั่นขึ้นไปได้หรือเปล่า ส่วนเราแยกกับทอมเพราะเราอยากขึ้นไปชมวิหารสุเมล่า อ่านรายละเอียดตามลิ้งค์นี้ได้ค่ะ วิหารสุเมล่า มีรถเที่ยวเดียวตอน 10 โมงเช้าและกลับเข้าเมืองตอนบ่ายสาม กว่าเราจะออกจากที่พักหารถตู้เข้าเมือง สายไปแล้ว ตอนแรกคิดว่าอาจจะหารถนั่งกันไปเอง แต่ท่าทางจะใช้เวลานานกว่ารถทัวร์ เลยไปเดินเล่นแทน อากาศร้อนพอสมควร มองไปมองมาเห็นมีคนนั่งอยู่บนดาดฟ้าของโรงแรมใกล้ ๆ เลยขึ้นไปนั่งดริ้งชมวิวกัน

วิวจากดาดฟ้าโรงแรมในใจกลางเมือง

วิวจากดาดฟ้าโรงแรมในใจกลางเมือง


ได้เวลากลับที่พักนอกเมืองละ เดินมาได้หน่อย ได้ยินเสียงเขาเล่นดนตรีเลยเดินตามเสียงไป ก็เห็นว่าเขามีนิทรรศกาลแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมกับประเทศเพื่อนบ้านแถบนั้น เราเห็นบูธของจอร์เจียกับอัซเซอร์ไบจานก่อน พอได้ข้อมูลและแผนที่ก็ไปจ๊ะเอ๋กับธงไทย เดินไปถึงน้องผู้หญิงยิ้มให้ แต่ยังติดพันกับคนที่มาถามรายละเอียดอยู่ แต่ยิ้มนั้นรู้สึกได้ว่าน้องเป็นคนไทยแน่ เป็นยิ้มสยามแท้ ๆ พอน้องว่างเราได้ทักทายสวัสดีกัน ได้คุยกันนิดหน่อยเพราะน้องต้องทำหน้าที่เผยแพร่วัฒนธรรมบ้านเรากับผู้สนใจ แต่ก็ได้ความว่าน้องทั้งสองคนได้ทุนมาเรียนเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่ตุรกีนี่ เพิ่งมาได้แค่ 6 เดือนแต่เห็นน้องสามารถให้้ข้อมูลต่าง ๆ เป็นภาษาเตอร์กิชอย่างคล่องเลย เก่งมาก เราแลกเปลีื่ยนอีเมลย์กัน จากนั้นเราเดินไปหารถตู้กลับที่พัก
ถ่ายกับน้องสองคนที่ได้ทุนมาเรียนที่มหาลัยที่เมืองทรับซอน

ถ่ายกับน้องสองคนที่ได้ทุนมาเรียนที่มหาลัยที่เมืองทรับซอน

เช้าวันต่อมาเราตื่นกันแต่เช้าเพราะต้องการปั่นเข้าเมืองให้ทันรถทัวร์ขึ้นไปเยี่ยมชมวิหารสุเมล่า ก่อนขึ้นรถเวชถามคนขายตั๋วว่าต้องเอาเสื้อกันหนาวหรือกันฝนไปด้วยมั้ย เขาบอกว่าไม่ต้อง ควรจะเชื่อคนท้องถิ่นใช่มะ แต่ครั้งนี้รู้สึกว่าเขาจะไม่เคยขึ้นไปเลยละมั้ง เพราะพอรถจอดให้ลงปุ๊บฝนก็ตกแปะ ๆ ทันที มารู้ทีหลังว่าที่สุเมล่าฝนตกปีละ 300 วัน ถ้าวันนั้นฝนไม่ตกนี่คงเป็นอะไรที่โชคดีเกินคาด อีกอย่างเป็นวันเสาร์แถมเป็น long weekend ของตุรกีอีกต่างหาก เพราะวันจันทร์เป็นวันหยุดชดเชย เหมือนบ้านเราอีกแล้วที่ถ้าวันหยุดไปอยู่วันเสาร์หรืออาทิตย์จะได้ชดเชยวันนั้น เมื่อวันอาทิตย์นั้นเป็นวันที่ 19 พค. เป็นวันสำคัญเพราะเมื่อปี 1919 วันนั้นเป็นวันที่อตาเติร์กขึ้นฝั่งที่เมืองซัมซุน จำภาพที่เวชเคยลงก่อนหน้านี้ได้มั้ยคะ? นั่นคือเขาและทหารข้างกายที่ได้รับคำสั่งจากสุลต่านให้ไปตามเมืองต่างเพื่อปลดระวางยอมแพ้ แต่อตาเติร์กกลับไปรวบรวมกำลังทหารและปฏิวัติแยกตุรกีออกจากจักรวรรดิออโตมันเป็นเวลา 4 ปีกว่าจะมาเป็นประเทศตุรกีได้ คนตุรกีนับถืออตาเติร์กดั่งพ่อของประเทศของเขา นี่คือที่มาว่าทำไมสุเมล่าถึงได้มีคนมากมาย จากตรงที่รถจอดให้เราเดินไปนั้น เป็นทางแคบแบบเดินไปข้างหนึ่งเดินมาอีกข้างหนึ่ง แซงกันแทบจะไม่ได้
ภาพวิหารไกล ๆ จากจุดจอดรถครั้งแรก คนขับว่าให้เวลา 5 นาทีถ่ายรูป คนที่นั่งมาเที่ยวด้วยเขาบอกต่ออีกที เพราะคนขับพูดภาษาอังกฤษไม่ได้:-)

ภาพวิหารไกล ๆ จากจุดจอดรถครั้งแรก คนขับว่าให้เวลา 5 นาทีถ่ายรูป คนที่นั่งมาเที่ยวด้วยเขาบอกต่ออีกที เพราะคนขับพูดภาษาอังกฤษไม่ได้:-)

ภาพเขียนด้านใน

ภาพเขียนด้านใน

สองพี่น้องที่น่ารักพากันไปเที่ยว พี่สาวมาเที่ยวหาน้องชายที่เรียนเป็นหมออยู่ที่เมืองทรับซอน ส่วนพี่สาวเป็นครูอยู่ที่ซัมซุน

สองพี่น้องที่น่ารักพากันไปเที่ยว พี่สาวมาเที่ยวหาน้องชายที่เรียนเป็นหมออยู่ที่เมืองทรับซอน ส่วนพี่สาวเป็นครูอยู่ที่ซัมซุน

Technical problems in Trabzon

It is inevitable to get mechanical problems on a long tour. This post is about how we solved a few problems in Trabzon.

When we returned from our half day trip to the Sümela Monastery my rear wheel was flat again. We had left the bikes behind the bus ticket counter when we went to the monastery and there was no room to fix the tyre there so I simply took my bike and wheeled it 100 meters to the city square and started to work on it.

Turkey’s football association had an event on a stage at the square and we set up our little work shop beside it. Naturally we draw some attention and one of the organizers came to help me. He then gave us tea, drinks, souvenirs and had his photographer take a picture of him and us on stage with a trophy some turkish team had won in a tournament.

The guy from Turkey's football association helping me fix my 5th flat.

The guy from Turkey’s football association helping me fix my 5th flat.

The tyre had gone flat while we were away and I suspected that my last patch had not glued properly which turned out to be the case. We use glueless pathces and it is crap. Of the 6 flats I have got so far 3 have been due to those glueless patches not sticking properly. They may be quick to work with and probably good on short tours around home, but they are useless on an extended tour like this. We will buy some proper old style patches as soon as possible.

A few days ago my bike fell on its left side when it was parked at a gas station. Unfortunately my barend shifter (Swe: växelhandtag) broke and I could no longer change my front gears. The ride for the coming days was flat and I managed to put the chain permanently on the big front chainring.

I also discovered that one of my spokes (Swe: eker) had been bent. I suspect it happened when the bellboy at the hotel in Samsun dragged our locked bikes the 200 meters from the garage to the reception.

Riding only on the highest gears is possible as long as it is flat, but after Batumi in Georgia we will have to climb some big mountains and then I need to be able to shift between highest and lowest gear so this issue needed to be addressed.

After we had returned from Sümela Monastery we spent the afternoon looking for a bike shop. It was not easy but finally we found one. The owner/mechanic didn’t speak any English but one of his visitors who appeared to know nothing about bikes spoke a bit of German. I am happy, and a bit proud, to announce that we managed to communicate about what needed to be done to my bike 🙂

Using my limited German and showing what needs to be done. The guy on the right acted as translator

Using my limited German and showing what needs to be done. The guy on the right acted as translator

The shop was not well stocked, but certainly good enough. The shifter that had broken is a rather unusual type and I replaced it with a one that is intended for simple MTB or city bikes. I am sure it will last long enough for me to find a proper replacement if not all the remaining way to Bangkok.

My new shifter set up. The broken shifter hangs dead at the barend and the new is upside down close to the stem.

My new shifter set up. The broken shifter hangs dead at the barend and the new is upside down close to the stem.

There was not enough space to place it correctly on my handlebar so we put it upside down. It is certainly not the ideal position but a simple choice when the alternative would be to ride up the mountains using the highest gear.

I also asked the mechanic if he could help me to replace my broken spoke. He misunderstood the question and said he probably didn’t have any spoke with the correct lenght. I then pulled out our spare spokes from the seat tube and then he got the message and immediately started to work.

With a new spoke and ability to use all my gears I feel ready for the mountains of Georgia.

To other touring cyclists with mechanical problems in Trabzon.

The shop’s contact details are:
Kuzey Bisiklet
GSM: 0532 377 96 41
Phone: 0462 321 5167

If you are on the K. Maras Cd street with the back to the main square you will have to turn left to the small street immediately before hotel Zorlu. You will find the shop inside the galleria that is opposite to a hamam. It isn’t a well stocked shop but basic things can be fixed.

The mechanic trued my wheel after replacing the spoke.

The mechanic trued my wheel after replacing the spoke.

ตุรกี => จาก Samsun (ซัมซุน) ไป Giresun (กีเรอซุน)

อยู่ต่อที่ซัมซุนอีกหนึ่งวัน ไปกินข้าว เดินเที่ยวไปทางริมทะเลดำ ซัมซุนเป็นเมืองท่าที่ใหญ่ที่สุดของภูมิภาคนี้ คนตุรกีเองก็มาเที่ยวเองด้วย มีเรือใหญ่ ๆ มาจอดมากมาย วันนี้ฝนตกอีกแล้ว แฉะ ๆ เลยกลับมาที่โรงแรม เจอคนที่ทำงานชั่งนน.รถบรรทุกที่เราแวะเมื่อวันก่อนด้วย เขายังจำเราได้ อิอิ เหมือนเดินอยู่แถวบ้านแล้วมีคนรู้จักมาทักทาย 🙂 โจคิมซื้อเบียร์กระป๋องที่ร้านข้างทาง ท่าทางร้านนี้ยิ่งละอายกลัวบาปกว่าที่อื่นมั้ง เพราะเอาเบียร์ห่อกระดาษนสพ.แล้วค่อยใส่ในถุงหูหิ้วสีดำ เขาไม่ได้หยิบจากตู้ข้างนอกที่โชว์อยู่ แต่หยิบจากตู้ข้างในร้านแล้วห่ออย่างเรียบร้อย ตอนนี้เวลาเดินไปไหนเห็นใครหิ้วถุงดำ 99.99% น่าจะเป็นเบียร์น้ำดื่มต้องห้าม 😉

ภาพในเมืองซัมซุนริมทะเลดำ

ภาพในเมืองซัมซุนริมทะเลดำ


อตาเติร์ก-ทหารยศพันโทที่รวบรวมกำลังพลทหารกู้ตุรกียึดอำนาจจากสุลต่าน

อตาเติร์ก-ทหารยศพันโทที่รวบรวมกำลังพลทหารกู้ตุรกียึดอำนาจจากสุลต่าน


รถตู้เยอะแยะเหมือนแถวสนามหลวงบ้านเราเลย มีคนออกมายืนเรียกผู้โดยสารด้วย

รถตู้เยอะแยะเหมือนแถวสนามหลวงบ้านเราเลย มีคนออกมายืนเรียกผู้โดยสารด้วย


ในถุงดำมีอะไรเอ่ย???

ในถุงดำมีอะไรเอ่ย???


กินข้าวอิ่มแล้ว แต่พอเดินผ่านร้านของหวานก็อดใจไม่ได้ ต้องแวะเสียหน่อย ซื้อมาอย่างละชิ้นสองชิ้น ไม่แพงมาก รู้งี้ซื้ออีกหน่อยก็ดี 🙂 กลับมาที่โรงแรมเราแวะชงกาแฟเอาขึ้นไปดื่มบนห้องกับขนมหวานที่ระเบียง ช่างมีความสุข
ร้านเค้กและขนมหวานที่ดูน่ากินไปหมด

ร้านเค้กและขนมหวานที่ดูน่ากินไปหมด


เช้าวันต่อมา เห็นอากาศแล้วไม่อยากจะไปไหนเลย ฟ้ามืดอีกแล้ว แต่ดีตรงที่ไม่หนาว ลมไม่แรง และแล้วฝนก็ตก เปียกแฉะไปหมด และทางที่จะออกจากเมืองซัมซุนกำลังซ่อมแซมถนน ที่นี้เลยเขรอะเลอะดินโคลนทั้งกระเป๋าและจักรยาน ตัวก็เปื้อนโคลนเต็มหน้าเต็มตัวไปหมด
ภาพจักรยานที่เลอะเทอะ ผลลัพธ์จากการปั่นผ่านตรงที่เขากำลังซ่อมแซมถนนกัน

ภาพจักรยานที่เลอะเทอะ ผลลัพธ์จากการปั่นผ่านตรงที่เขากำลังซ่อมแซมถนนกัน


ออกมาได้นิดนึงก็เที่ยงวันเลยแวะกินข้าวเที่ยงก่อน และคุยกัน โจคิมรู้สึกไม่ค่อยมีอารมณ์เพราะต้องย้ายต้องเปลี่ยนสถานที่ไปเรื่อย ๆ ส่วนเวชแค่เบื่อตอนที่ต้องแพ๊คของก่อนปั่น แต่พอปั่นออกมาได้สักพักรู้สึกปั่นสบายเพราะทางลาดลงนิด ๆ ทำให้รู้สึกเหมือนปั่นเสือหมอบ วันนี้ทำความเร็วได้ตั้ง 24 กม./ชม. ไม่เคยเกิดขึ้นตั้งแต่ปั่นออกจากสวีเดนเลยมั้ง อืม…มีครั้งหนึ่งที่ปั่นจากสโลวาเกียเข้าฮังการี นั่นแทบไม่ต้องปั่น เพราะพายุดันหลังมาตลอด ตอนนั้นปั่นเหมือนปั่นไปหน้าปากซอยซื้อขนมที่เซเว่นมากกว่า แต่ความเร็วอยู่ที่ 35-40 กม./ชม. 🙂

ปั่นกันมาได้ 74 กม.ใช้เวลาแค่ 3 ชม. ถ้ารู้ว่าทางลาดลงปั่นสบายอย่างนี้ คงจะออกมาเร็วกว่านี้ ไม่อย่างนั้นวันนี้น่าจะปั่นได้มากกว่าร้อยโลแน่ เสียดาย เราแวะปั้มทำธุระกันหน่อย พอเวชเดินเข้าไปก็เห็นมีคุณป้าคนหนึ่งกำลังล้างมือ เธอหยุดกิจกรรมนั่นแล้วหันมาพ่นเตอร์กิชใส่ยาววว เอ่อ..เขาไม่เห็นความแตกต่างว่าใครเป็นนักท่องเที่ยวใครเป็นเตอร์กิชหรืองัย เงียบไปสักพัก คาดว่าคงจะพยายามหาคำ แล้วคุณป้าก็ทำลายความเงียบด้วย “boys and girls” อ้าวเฮ้ย!!! แหม..เห็นหน้าอกหน้าใจฉันมีน้อย ๆ แต่ฉันก็ยังต้องนั่งฉี่อยู่นะเว้ย เฮ้อ..ไม่เคยเห็นผู้หญิงผมสั้นหรืองัยหึ

เราพักที่เกสเฮาส์ติดทะเลดำ ได้ยินเสียงคลื่นกระทบฝั่งด้วย เพลินไปเลย ก่อนออกจากที่พักเราจัดการเอาน้ำใส่ขวดมาฉีดล้างรถที่เขรอะมาจากเมื่อวาน เลยเห็นซี่ล้อที่อยู่ใกล้กับล๊อค “งอ” รู้ทันทีว่าทำไม ต้องเป็นเด็กที่โรงแรมที่พยายามยก (น่าจะลากมากกว่า) จักรยานเรามาจากที่จอดรถซึ่งอยู่ห่างออกไปสัก 200-300 เมตร ฮึ่ม…หาเรื่องให้พวกฉันอีกแล้ว เลยย้ายเอากระเป๋าสองใบข้างหลังที่หนักกว่ามาไว้ข้างหน้าแทนเผื่อว่าจะยืดอายุมันได้หน่อย

เราปั่นมาตามทางหลวงเลียบทะเลดำ สวย ชอบมากเลย แต่แวะยากเพราะเราปั่นอยู่อีกฝากถนนหนึ่ง เลยชมจากอานแทน ได้แต่เอาเท้าแช่น้ำทะเล ยังไม่กล้าลงทั้งตัว กลัวหนาว รออีกหน่อยเห็นเขาว่าสักปลาย ๆ พค.นี่แหละน้ำจะอุ่นขึ้น เมื่อคืนเรานอนที่เกสเฮาส์ ลองต่อราคาเขาดูจาก 50TL เป็น 40TL แต่อีตาเจ้าของมันกลับย้อนศรเรา บอกว่า “เอามั้ย? จ่ายเพิ่มอีก 10TL ได้อาหารเย็น” เป็นไปได้มั้ยว่า มันเป็น bed & breakfast แต่พอเราต่อปุ๊บเลยกลายเป็น bed & dinner แทน อืม..น่าคิด

อาหารเย็นที่ Bed & Dinner รสชาติน้ำแกงเหมือนมาม่าต้มยำเลยอ่ะ แถมยังใส่ข้าวลงไปด้วยนะ เหมือนนั่งกินอยู่ริมทะเลบางแสนสมัยวัยเอ๊าะ ๆ เลย

อาหารเย็นที่ Bed & Dinner รสชาติน้ำแกงเหมือนมาม่าต้มยำเลยอ่ะ แถมยังใส่ข้าวลงไปด้วยนะ เหมือนนั่งกินอยู่ริมทะเลบางแสนสมัยวัยเอ๊าะ ๆ เลย


เช้าเราเลยออกกันแต่เช้าหน่อยแล้วไปหาอะไรกินตามทาง ปั่นมาเจอคาร์ฟูเอ๊กเพรส จอดซื้ออาหารเช้ากินกัน นั่งกินได้สักพัก ก็เห็นจักรยานคันหนึ่ง แบกสัมภาระเหมือนเราเล้ย เย้ๆๆ ในที่สุดเราก็ได้เจอเพื่อนนักปั่นทางไกลเป็นครั้งแรก “ทอม” เป็นคนที่เลี้ยวเข้ามาก่อน คุยกันได้นิดนึงก็มีอีกสองคันเลี้ยวตามมาคือ “นิค” และ “อาเธอร์” พวกเขาเคยได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับเรามาก่อนแล้วจากปั้มห้าดาวที่เราเคยพักหลังจากที่ออกจากบ้านเพื่อนที่เมืองซอนกูลดัค ทอมและนิคเจอกันโดยบังเอิญที่ซอนกูลดัค ส่วนอาเธอร์เป็นเพื่อนของนิคซึ่งบินมาจากอังกฤษมาร่วมเดินทางกับนิคจากเมืองซัมซุนไปเมืองหลวงของประเทศจอร์เจียคือทิบลิซิและจะบินกลับอังกฤษ ทอมจะปั่นไปเมืองไทยโดยจะปั่นเข้าอินเดียแล้วค่อยหาทางออกจากอินเดียเข้าไทย ส่วนนิคตั้งใจและปั่นเพื่อสะสมเงินทุนช่วยเหลือเด็กที่ด้อยการศึกษาที่อินเดียและจบทริปของเขาที่นั่น หลังจากที่คุยแลกเปลี่ยนเกี่ยวกับเส้นทางและความประสงค์ของแต่ละคนแล้ว เราทั้งห้าคนก็ปั่นไปด้วยกัน ตั้งใจไว้ว่าจะปั่นให้ได้มากที่สุดหรือจนกระทั่งแสงตะวันแห่งวันจะมืดดับไป แล้วมันก็มืดดับไปจริง ๆ เพราะเรามัวแต่ตระเวณหาที่พัก หาซื้อปลาสดที่ทอมอยากทำกินมาก ๆ และเพราะทางเลียบทะเลดำมีหมู่บ้านและคนอยู่กันเยอะมาก ทำให้เราหาที่กางเต้นท์ลำบาก อีกอย่างคือด้านนึงเป็นทะเล อีกด้านนึงเป็นเขา แต่ในที่สุดเราก็ปั่นออกมานอกเมืองหน่อย และสามารถกางเต้นท์ที่ปั้มแห่งหนึ่งที่มีที่ทางพอสำหรับเต้นท์ 4 หลัง เฮ้อ…วันนั้นก็ปั่นกัน 140 กม.
ได้เพื่อนนักปั่นชาวอังกฤษตั้ง 3 คนพร้อมกัน แต่เรายังคงรอที่จะเจอกับนักปั่นที่ปั่นมาจากเอเซียอยู่

ได้เพื่อนนักปั่นชาวอังกฤษตั้ง 3 คนพร้อมกัน แต่เรายังคงรอที่จะเจอกับนักปั่นที่ปั่นมาจากเอเซียอยู่

Day 53-55 (Samsun – Akcaabat)

Motivation, cycling vs traveling and nice company

It has not been possible to update the blog as frequently as before so this post is an update for the following days:

Day 53 Samsun -Ünye (74 km)
Day 54 Ünye – Giresun (143 km)
Day 55 Giresun – Akcaabat (110 km)

During the week we were fighting uphill in the heat I started to feel a bit unmotivated. Turkey is a large country and we have a map with the western part on the front and the eastern on the back. We struggled and struggled up those not very steep but long hills and despite very hard work we rarely came further than 70 km a day. When looking at the map at the end of a hard day in the saddle, it seemed that all our effort had brought us nowhere.

I started to get a feeling that everyday was the same. Wake up, eat, pack, cycle, cycle, cycle, find somewhere to stay, eat and sleep but without the sense of triumph it can be to see that we have made some progress on our map.

I was not tired of the cycling in itself. I was tired of packing and going to an unknown place that was too close to the the previously unknown place we left in the morning. There was no excitement of arriving to a new place each evening and I was not interested in getting in contact with other people. Instead of the positive expectations when arriving to a new town, I immediately started to think of unpacking and packing again in the next morning.
What I think I wanted was to be at the same place for a week, to be able to unpack everything and not only the essentials for the night. I wanted to set up a home even if it only would be for a few days.

To sometimes get a state of mind like this is normal for people who are on long journeys and I had expected it to happen sooner or later and it happened to me when cycling somewhere between Zonguldak and Samsun. I am sure it will happen again and it then it is good to be two people to help each other to make sure that the mood doesn’t drop too far.

A few years ago the two american cyclists Ross and Dane were on their way from Helsinki to Barcelona and came to stay with us for a few nights in Göteborg. I remember we had a long discussion about the concept of being a ”cyclist” or being a ”traveler”.

The Cyclists are those who do a long cycling tour because of the physical challenge – they want to prove that it is possible to ride from A to B in winter or under less than X months. The Travelers, on the other hand, are those who want to explore a certain area and for various reasons have picked bicycle as their means of transportation.
I remember reading Dane and Ross blog afterwards where they wrote that the discussion seemed redundant at first, but proved to be unexpectedly insightful when they, a few days later, wet, cold and stuck in a fierce headwind decided they were travelers and caught a train instead of fighting on in the miserable conditions.

So what are we, cyclists or travelers?

For me I am happy (mostly) to be on the way, meet new people and see fascinating cities and landscapes. I think that qualifies me as a traveler, but I am also attracted by the notion of an unbroken wheel track between Göteborg and Bangkok. Although I want to be a traveler I am also enough of a cyclist to not want to catch a bus when an expected period of low motivation hits me. During me period of low motivation the thought of wanting to catch a bus never struck me. I wouldn’t have hesitated to do it if it had been unusual circumstances or we had had major technical problems, but a temporary and exptected lack of motivation was not a big enough reason for me. Wej was happy all these days and still look forward to her first low motivation days… 😉

When we arrived in Samsun we got a lovely hotel room with a huge balcony. We immediately felt at home and I guess that made it even more difficult to leave. The rain that started to fall as soon as our bikes were packed did certainly not make it easier and my motivation got even lower. Wej has been happy all the time I have experienced this lack of motivation and she pushed me to go on.

As we exited Samsun we soon got onto a big highway with two lanes and wide shoulder. It was a bit muddy close to the city center due to road works and we got very dirty. The highway was completely flat and we had a light but steady tailwind and moved on at a much higher speed than we have done since we started this tour.

Dirty rear pannier

Dirty rear pannier

I do a lot of road cycling in Sweden and during the last 6 years I have trained with the team in Älmhult. Cruising in a well organized group at high speed when the kilometers seem to fly past you is a wonderful feeling.

Today on the straight highway with the help of the tailwind I got the same feeling. I got into the drops and pushed forward with Wej following closely behind. We were cycling with our fully loaded touring bikes at around 30 km/h. It was great fun and I felt just like if I was riding my road bike again.

When cruising at high speed along that wellkept road I started to ask myself if my period of low motivation was due to too much ”travel” and too little ”cycling”. Being able to get our average speed up to 25 km/h (very high when touring) soon got me into a better mood. Maybe going uphill in less than 10 km/h for several days had made me miss the cycling part of our journey.

After a few hours we found a little Bed & Breakfast by the Black Sea beach. The intention was to camp but when we saw the place we thought we could as well ask for the price and when we got the price, we did not want to camp anymore 😉

The Bed & Breakfast turned out to be a Bed & Dinner and no breakfast. It didn’t matter and we cycled the 7 km into the town of Ünye where we stopped infront of a Carrefour supermarket.

We have from time to time asked ourselves when we will meet the first other cycle tourist crossing the Euroasian continent. We met a local guy on a short tour once, but still we hadn’t met anyone on an extended tour.

Friends on the road

Friends on the road

When we had our breakfast in front of Carrefour in Ünye we spotted anothoer cyclist coming from the other direction.

Great 🙂

Finally we would be able to talk to someone who is on a similar mission as us and maybe we could get useful information.

The guy had a big beard and long red hair and introduced himself as ”Tom”. Even before we started to talk, two more guys with heavy loaded bikes came to the parking lot where we were, but not from the same direction as Tom. He soon explained that he had passed by and turned around to go shopping at Carrefour. The two other guys are Nick and Arthur.

We all got exited to see each other and Tom (blog) explained he was on the way to Rayong in Thailand while Nick was going to India (blog). Nick and Tom had met by coincidence in Zonguldak the previous week and cycled together since then. Arthur had flown in to cycle with Nick between Samsun and Tbilisi during his 11 day vacation and they had picked him up at the airport the previous day.

Nick explained that he had visited the 5-star gas station outside Zonguldak and then been told by the staff about us so they all knew we were ahead of them.

As mentioned, we have discussed when we will meet the first cyclists. These guys overtook us so we have yet to meet the first ones coming in the opposite direction 🙂

When running into someone who is on a similar trip an endless discussion immediately starts about roads, visa applications and technical issues. I think we all felt it was fun to meet and exchange ideas and experiences.

Shopping for dinner

Shopping for dinner

Since we were all going in the same direction we mostly rode together but split up sometimes. Nick and Arthur wanted to go across a mountain pass on the old coastal road while Tom, Wej and I thought we had had enough of climbing and opted for the shortcut through some tunnels. It was a gentle climb of 200 vertical meters up to the section of the roads where the tunnels were. Right in the middle of the 300 meter long open section between the first short tunnel and the following 2.8 km tunnel I got my 4th puncture. It doesn’t help to get irritated – it’s much better to get to work quickly. 5 minutes into the job of repairing it started to rain and that was irritating, especially since it started to rain last time I was fixing my flat tyre too.

Fixing my 4th flat tyre between two tunnels

Fixing my 4th flat tyre between two tunnels. No rain yet….


A flat tyre and rain was bad, but it would have been much worse to get the puncture inside the 2 km tunnel that had its entrance 200 meters ahead of us. I rather fix a flat tyre outside in the rain than on a narrow walkway in a noisy and stinking tunnel.

During the late afternoon we all decided that we wanted to reach the city of Giresun and try to find somewhere to camp there, preferably at a gas station. When arrived in the city center Tom said he wanted to cook fish for dinner and we all went into town to try to find an open fish store.

Buying some fish

Buying some fish

With fresh fish, eggs, vegetables and 5 loaves of bread(!) and a few beers strapped to our bikes we started our search for somewhere to camp. Camping under a motorway flyover was rejected because it was too noisy and probably would attract the kind of people we don’t want to get in touch with.

We tried a few gas stations but being in the city they were all small and without any lawn. The local fire station had a lawn and we went there to ask. I guess we would have been allowed to stay if it hadn’t been for some big boss being present that evening. We then decided to leave town and try any of the bigger gas stations that usually are found at outskirts of each city.

Cooking together

Cooking together

We were very happy to finally find a gas station that accepted to have a group of 3 british, a swedish and a thai cyclist camping on its terrace overlooking the Black Sea.

Nearby Giresun at night

Nearby Giresun at night

After cooking and eating together we went to bed. When going to bed I was a bit worried about camping on a tiled floor – what about it starts to rain and there is a poor drainage.
I woke up at 6 AM by the sound of heavy rain. When I looked out from the tent I could see a lot of water. It didn’t seem to flow away and the water level raised.

Our tent pitched pitched on the petrol stations terrace

Our tent pitched pitched on the petrol stations terrace

We have two things that may not get wet – our down sleeping bags and our computer. The computer was safe in a watertight pannier, but there was a serious threat of our sleeping bags getting wet so we quickly packed them.

Nick and Arthur had not been as lucky – they had pitched their tent at the lowest part of the terrace about 15 cm from the drainage. They were completely wet, but seemed happy anyway.

The rain kept falling and we heated water on our multifuel stove in the ladeis restroom and had our morning coffee standing there.

Making coffee in the ladies restroom

Making coffee in the ladies restroom


About 15 minutes before we were ready to go it stopped raining and the cycling conditions seemed to be promising. Sunshine and tailwind.

It is difficult to ride in a group of five people who previously have never cycled together. We cycled together and sometimes split up but stopped to wait and have lunch together. The tailwind and lack of hills made us all move at unusual spped and in the afternoon we decided that we all wanted to stay indoor the coming night in order to be able to dry our wet clothes.

Pide for lunch again - this one was vey long...

Pide for lunch again – this one was vey long…

When arrived in Akcaabat some 10-15 km west of Trabzon we decided to try to find a cheap hotel. While we went around looking Wej got her first puncture. My lead was now reduced to 4-1 but it was quickly fixed on a busy pavement just next to an ATM machine.

Fixing Wej's first flat tyre

Fixing Wej’s first flat tyre

Restday in Samsun

Samsun is Turkey’s largest city on the Black Sea coast. It is situated on hills sloping into the sea and from city center I felt like being on the stage in an amfiteater surrounded by the built up hills as my audience.

It was hard for us to leave our very nice room at the hotel with this great view.
SONY DSC

Apart from the huge balcony overviewing the harbour and some of the surrounding hills, it also had a jacuzzi bathtub. We didn’t use the jacuzzi as intended though – instead we emptied our panniers with dirty clothes and let them soak in the jacuzzi for some time before washing and leaving them to dry on the giant balcony.

Drying our clothes after washing them in the jacuzzi.

Drying our clothes after washing them in the jacuzzi.

Before I travel to a new country I usually like to read a bit of its history and current political situation. Unfortunately this has not been possible since we have visited so many countries during a short time.

In Turkey huge turkish flags are flown everywhere and a portrait of Mustafa Kemal Atatürk is never far away. When I have had time I have done a bit of reading on the internet to catch up on Turkey’s modern history and then I have understood that Samsun has played a part in the creation of modern Turkey.

As I understand it Atatürk was sent out by the Sultan from Istanbul to Samsun to oversee the disbanding of the remaining military forces after the Ottoman empire’s defeat in the first world war. He, as well as many others, didn’t like seeing their country being chopped up so instead of following the sultan’s order he started to organize the turkish national movement. His landing in Samsun on 19th of May 1919 marks the starting day of the Turkish war of independence that a few years later led to the creation of the Turkey we see today.

In the afternoon we went out to see the city. We started by walking to the seaside park and take a look at the monument of Atatürks landing in Samsun from SS Bandirma. I am not sure but I think the monument is made to to look like a famous photo of Atatürk stepping ashore. Unfortunately the information signs were only in Turkish.

The monument of Atatürk's landing in Samsun

The monument of Atatürk’s landing in Samsun

After a walk in the park and a visit to a nearby bazaar it was time for a very late lunch and once again we ended up at a restaurant with a döner being grilled behind the counter. The difference with this restaurant was that they grilled the döner by using firewood instead of gas. The chef looked after the döner roll by turning it every few minutes and fed a piece of wood into it when needed. It looked very authentical but I can’t say if it tasted any better than the döner’s grilled by the usual gas heated grill.

The döner chef. Please not the grill heatd by firewood.

The döner chef. Please not the grill heatd by firewood.

Wej decided to order a ”pide” which is a long oval pizza looking dish with thin bread and toppings of choice. I decided to go for an Iskender which is döner meat cut in wider pieces on placed on top of shredded thin bread and then topped with tomato sauce and melted butter and with some youghurt at the side.

The "pide" Wej ordered. As you can see I have stolen one end of it... :-)

The “pide” Wej ordered. As you can see I have stolen one end of it… 🙂

A fresh and very tasty salad is usually served with the lunch. Squeezing a lemon over the salad as well as some salt makes it taste heavenly…. 🙂 And the spicy chillies served to it make us who like spicy food not wanting to leave…..

Fresh salad

Fresh salad

The food in Turkey is very tasty and a good reason in itself to travel here. After having been here for more than a month we have only tasted one dish that we didn’t like and that was the toothpaste soup at the hotel in Istanbul.

Usually we like seafood and although being on the Black Sea coast we haven’t managed to try so much of it yet. Fish vendors are everywhere and one thing I have noticed is that fish doesn’t seem to be stored on ice like we do in Sweden.

Fish on display in the fish store

Fish on display in the fish store

The man in the store wanted to sell us this fish, but we were already full after having iskander and pide in the restaurant next door. Maybe next time….

Fish anyone...?

Fish anyone…?

What is even better is that in Turkey they are masters of making delicious sweets and desserts that also look very temtping. We like to enter the stores selling these delights just to have a look and smell…..

Wej in paradise :-)

Wej in paradise 🙂

Everything looks so good and it is hard to choose. Should we by this one….?
SONY DSC

Or maybe this….?
SONY DSC

We wanted to try all of the pastries but we managed to agree on a few ones to bring back home and have on the balcony together with coffee made on our own little primus petrol stove. To conclude we can say that if we hadn’t come here using our own muscle power we would certainly have left Turkey a bit heavier than we came….

Coffee and sweets on the balcony

Coffee and sweets on the balcony

The view of the city was even better at night time when the lights were turned on in the houses on the surrounding hills.

Samsun by night

Samsun by night