เกสเฮาส์ที่บูคาเรสต์ไม่ค่อยน่าอยู่อาจจะเป็นเพราะราคาถูกละมั้ง แต่เจ้าของดูแลดี เขาคุยให้ฟังว่าเขาพยายามที่จะบอกเพื่อน ๆ และคนรู้จักให้ทำตามเขา คือทำกิจการแบบเขา ดีกว่าไปทำงานให้คนอื่น ได้เงินเดือน ๆ ละ 200 โรน (Ron คือค่าเงินของเขา) มีแค่ 4-5 คนที่เขาสามารถโน้มน้าวได้ น่ารักเนอะ ทั้ง ๆ ที่อาจจะเป็นผลเสียแก่เขา เพราะจะมีคู่แข่งเพิ่มขึ้น
กว่าเราจะออกจากเกสเฮาส์ก็เกือบบ่ายสอง เพราะต้องเช๊คและติดอะไรหลายอย่างที่จักรยาน เช่น ล๊อคและกระจกส่องหลัง ส่วนโจคิมติดกระดิ่งและที่สูบลมอันใหม่ อันเก่าใช้ไม่ได้เอากลับไปสวีเดนไปเปลี่ยนที่ร้านที่เราซื้อมา กระจกส่องหลังดีมาก ๆ เลย ไม่ต้องหันไปดูให้จักรยานเสียหลัก
วันนี้เราปั่น 70 กว่ากิโลไปเมือง Giurgiu (ออกเสียงยากมาก ขนาดถามเขาแล้วยังจำไม่ได้เลย) เป็นเมืองติดชายแดนระหว่างโรมาเนียกับบัลแกเรีย ทางมันช่างน่าเบื่อจริง ๆ เพราะเราไม่สามารถหาทางเล็ก ๆ เพราะเอาแผนที่ไปทิ้งไว้ที่สวีเดนแล้ว อากาศมันช่างแตกต่างจากตอนที่เราปั่นมาบูคาเรสต์ ที่หนาว, มีพายุหิมะ, และต้องใส่เสื้อผ้าหลายชั้น ใส่หมวกกันลมเพิ่มก่อนใส่หมวกกันน๊อค แต่วันนี้เราใส่แค่เสื้อแขนสั้นและแจ๊กเก๊ตกันลมเท่านั้นเอง กลางวันยาวขึ้นด้วยทำให้มืดช้าลง เราถึงเมืองนี้ตอนทุ่มหนึ่งก็ยังสว่างอยู่ ปั่นผ่านเข้าเมืองก็มีหนุ่มน้อยคนนึงโบกมือให้ เราเลยให้เขาช่วยหาเกสเฮาส์ถูก ๆ เสียเลย 🙂 คุยเก่ง เขาชอบเดินเทรคกิ้ง เสียดายไม่ได้ถ่ายรูปไว้ วันนี้เป็นวันแรกที่ออกไปนั่งทานข้าวเย็นกันด้านนอก เย็นนิดหน่อยแต่ดีกว่านั่งรมควันบุหรี่ในห้องอาหาร เพราะคนที่นี่เขาสูบกันเยอะมาก