อีกแล้วออกสายอีกแล้ว 🙂 กว่าจะทำอะไรเสร็จ ความชำนาญในการแพ๊คมันหายไป ต้องเทรนกันใหม่ 🙂 เมื่อคืนฝนคงจะตกเพราะถนนดูชื้น ๆ เลยออกกันสายหน่อยรอให้ถนนแห้ง 🙂 หาข้ออ้าง หลังจากที่เราจ่ายค่าห้องพักและค่าอาหารเมื่อคืน เรายังมีเงิน Ron ของโรมาเนียเหลืออยู่ประมาณ 4 โรนกว่า ๆ คงพอค่ากาแฟ พอเราปั่นไปได้ 2 กม.ก็เห็นปั้มน้ำมันเลยเข้าไปดูว่าเราจะซื้ออะไรได้บ้างกับเงินที่เหลือ ปรากฎว่าได้ช๊อคโกแลตและขนมขบเคี้ยวมากินเล่น เทเหรียญทั้งหมดที่มีอยู่ให้เขาไปเลย เก็บไว้ก็หนักเปล่า ๆ
หลังจากนั้นเราปั่นข้ามสะพานมิตรภาพโรมาเนีย-บัลแกเรียข้ามแม่น้ำดานูบ เขากำลังซ่อมสะพานจึงวิ่งได้แค่ทางเดียว มีเจ้าหน้าที่คอยโบก พอเขาเห็นเราปั่นจักรยานมาก็เชียร์ให้เราประมาณว่า “เอ้า..ปั่นเร็ว ๆ” 🙂
พอมาถึงป้ายก็ต้องถ่ายรูปกันหน่อย ผ่านเข้ามาประเทศที่ 6 แล้ว พอผ่านป้ายมาก็เจอปั้มน้ำมันเลยเข้าไปดูว่าเขามีแผนที่ขายมั้ย มีแถมมีอินเตอร์เน๊ตด้วย ล้ำหน้าสวีเดนไปเยอะเลย เพราะตามปั้มที่สวีเดนไม่เคยเห็นมีเน๊ตเลย
หลังจากถามทางปั่นเข้าเมืองกับเจ้าของปั้มแล้ว เราก็เลี้ยวออกมา ในเมืองเราเริ่มเห็นดอกไม้เริ่มผลิต้นไม้เริ่มเป็นสีเขียวดูสดชื่นมาก เราพยายามจะเลี้ยวไปทางที่จีพีเอสบอกแต่ไปติดที่วงเวียนและไม่อยากไปเบียดกับรถยนต์ เราเลยต้องเลี้ยวไปอีกทางและแวะดูแผนที่ จนมีผู้หญิงคนหนึ่งเดินมาทักและบอกว่า “ฉันก็เคยเดินทางไกลด้วยจักรยานเหมือนพวกเธอนะ แต่ตอนนี้เขาขายจักรยานไปแล้วเพราะไม่มีเวลาเหมือนตอนโน้น แต่เราแค่หวังว่าเราคงไม่เบื่อปั่นหรือขายจักรยานก่อนถึงเมืองไทย 🙂 การที่เราถูกรถเบียดให้เลี้ยวไปอีกทางทำให้เราได้เจอกับสาวน้อยคนนี้ แถมมีความสนใจในสิ่งเดียวกันอีก
ทุกครั้งที่เราผ่านจากประเทศหนึ่งเข้าอีกประเทศหนึ่ง สิ่งที่ต้องทำคือ กดเงินซื้อแผนที่และเช๊คว่าค่าครองชีพของประเทศนั้นเป็นอย่างไร การกดเงินแต่ละครั้ง เราต้องเสียค่าธรรมเนียมให้กับธนาคารที่สวีเดน แต่เราคิดว่าเสียค่าธรรมเนียมดีกว่ามีเงินเหลือแล้วต้องแลกคืน ซึ่งอาจจะเสียมากกว่าก็ได้
ตอนแรกก็คิดว่าหาที่กินข้าวเที่ยงแล้วปั่นต่อ แต่พอนั่งที่ร้านอาหารปรากฎว่าเวลาตอนนั้นบ่ายสองกว่าแล้ว เห็นป้ายสำนักงานบริการนักท่องเที่ยว ใช้เวลาอยู่เหมือนกันแต่เขาให้รายละเอียดที่ดีมาก เกี่ยวกับสถานที่ที่เราควรจะแวะและไม่ควรพลาด ในเมื่อเรามีเวลาทำไมเราถึงจะไม่หยุดเพื่อชมเมืองบ้างละจริงมั้ย? เลยตัดสินใจพักที่เมืองนี้แล้วค่อยปั่นแต่เช้าวันรุ่งขึ้น