ท่ีจ๋างเย่อเราต้องจัดการเรื่องซิมโทรศัพท์เพราะตังค์ในซิมหมด ออกไปเดินหา China Unicom พอมาถึงก็คุยกันไม่รู้เรื่องเพราะเราไม่มีเน็ตแล้วไม่สามารถคุยกันผ่านกูเกิ้ลได้ กว่าเขาจะเข้าใจว่าเราต้องการอะไรร้านจะปิดแถมเติมไม่ได้อีกเพราะอยู่คนละมณฑลซิมแรกซื้อท่ีมณฑลซินเจียงแต่ตอนนี้เราอยู่มณฑลจิงไห่ โอ๊ะ..ข้าพเจ้างง กฎเกณฑ์อะไรของเขานั่น แล้วเราจะทำอย่างไร??? กลับท่ีพักด้วยความหงุดหงิด ขนาดเวชใจเย็นมากแล้วนะยังรู้สึกปวดตับอยากจะกรี้ดดดดดัง ๆ ๆ แต่รู้ว่าไม่มีประโยชน์ วันรุ่งขึ้นออกไปจัดการเรื่องซิม เราตัดสินใจว่าถ้าอย่างนั้นทิ้งซิมเก่าเปลี่ยนยี่ห้อเป็น China Mobile แต่ก็ยังมีปัญหาคือพนักงานคนแรกพอเห็นพาสปอร์ตเวชไม่ยอมทำให้บอกว่าเอกสารไม่ถูกต้อง เอ่อ..อันนี้แก้ไขยากหน่อยนะ ฉันมีเล่มนี้เล่มเดียว และกว่าเขาจะเข้าใจว่าควรจะเอามือถือตัวเองขึ้นมากด ๆ คุยกันผ่านเวบต์ช่วยแปล เฮ่อ.. อยากกรี้ดดดดดัง ๆ อีกที ปวดหัวตึ๊บเลยอ่ะ สักพักนึกขึ้นได้ว่าท่ีคัชก้าท่ีเราซื้อซิมแรก เข้าคุ้ย ๆ เอกสารตรงหน้าแล้วก็หยิบเอาแผ่นก้อปปี้บัตรประชาชนของใครไม่รู้มาลงทะเบียนให้เรา ตอนนั้นก็คิดว่าทำอย่างไรก็ได้ขอให้ฉันได้ซิมมา เลยเล่าให้เขาฟัง แต่กว่าเธอจะเข้าใจว่าเวชไม่สามารถเข้าใจภาษาจีน เอาโทรศัพท์มากดคุยกันบอกให้เขาทำอย่างท่ีพนักงานท่ีคัชก้าทำให้ได้มั้ยละ ไม่ได้! อยากกรี้ดด้วยบ้างหรือยังคะ??? พอดีมีเพื่อนพนักงานอีกคนเดินเข้ามา เขาคุยกันและก็บอกว่าน่าจะทำได้ หันมาหาเวชแล้วถามว่ามีชื่อจีนมั้ย? ไอ่หย๋า..ก็มีนะ แต่จำไม่ได้แล้วว่าเขียนยังงัย สรุปเขาเขียนชื่อตามในพาสปอร์ต เราเลยขอให้เขาจัดการให้เราโดยท่ีเราจ่ายไปเลยสำหรับ 2 เดือนท่ีอยู่ท่ีเมืองจีนจะได้ไม่ต้องวุ่นวายอีกครั้งหนึ่ง เฮ้อ..แต่ก็ไม่วาย เพราะเมื่อวานนี้รู้สึกว่าเรามีสัญญาณแต่ไม่มีอินเตอร์เนต คงต้องลุยหรือกรี้ดดดกันอีกรอบละ เบื่อจริง ๆ สื่อสารกันไม่ได้นี่มันช่างเสียเวลาจริง ๆ
ก่อนท่ีจะเราจะถึงเมืองหมินเล่อ เราเห็นนักปั่นคนหนึ่งกำลังนอนพักผ่อนอยู่ข้างถนน จะเข้าไปทักก็กลัวจะเป็นการรบกวนเราเลยปั่นเลยไป ทางเข้าเมืองก็ดูไม่เหมือนเช่นกันว่าจะมีเมืองใหญ่ท่ีอยู่ลึกเข้าไปอีก พอเช็คเอาท์ออกจากโรงแรมท่ีอยู่ก็เห็นโรงแรมอยู่ข้าง ๆ อีกท่ีหนึ่ง ปั่นออกมาได้ไม่ไกลนัก ก็เห็นจักรยานอยู่ข้างหน้าเราคันหนึ่ง ตอนแรกนึกว่าเป็นบาเทคเพราะเขาเขาปั่นช้าเลยมักจะออกก่อนเรา แต่ไม่เห็นกระเป๋าสองใบเล็กด้านหน้า ไม่ใช่บาเทคแล้วล่ะ พอเราปั่นไปถึงก็หยุดคุยกับเขาและได้ความว่าเป็นชาวจีนคนหนึ่ง ทำงานได้ 3 ปีเป็นวิศกรด้านคอมพิวเตอร์ ลาออกแล้วมาปั่นรอบประเทศจีน เขาออกทริปมาได้ 1 ปีนิด ๆ ละ
หลังจากนั้นเราปั่นกันสักช่วงหนึ่ง จนกระทั่งมาถึงยอดเขาแรกของวันนี้ เผอิญบาเทคเพื่อนเราเกิดอาการอยากจะอาเจียนท้องเสียเป็นไข้ หลายอย่างพร้อมกันทีเดียว เราเลยต้องให้เขาตัดสินใจว่าจะไปต่อท่ีความสูงสูงขึ้นแล้วไหลลงไปในเมืองหรือจะย้อนลงไปท่ีต่ำกว่าแล้วตั้งแคมป์ เราเข้าใจบาเทคเพราะในสภาพแบบนั้นก็ไม่อยากนอนเต้นท์ อยากนอนในท่ีอุ่น ๆ มากกว่า เราเลยปั่นต่อขึ้นเขาและไหลลงมาท่ีเมืองเล็ก ๆ แห่งหนึ่ง โชคดีของเราท่ีวันนี้เรามีฟิชเชอร์มาด้วย เขาช่วยเราหาโรงเตี้ยม เพราะเมืองเล็ก ๆ นี้ไม่มีโรงแรมแน่นอน เขาวิ่งหาติดต่อเช็คราคา แต่ตรงท่ีเรายืนรอนั้นลมแรงมากอุณหภูมิอยู่ท่ี 7 องศา ได้ห้องพักคู่เรายกเตียงให้ฟิชเชอร์และบาเทค ส่วนเราสองคนนอนพื้น พื้นเป็นเสื่อน้ำมันเรามีอุปกรณ์พร้อมเลยยกเตียงให้พวกเขา อย่างน้อยบาเทคท่ีเข้าห้องพักปุ๊บก็สลบหลับไปเกือบถึงเช้าเลย
เช้านี้โจคิมเปลี่ยนยางในทั้งสองล้อ บาเทคล่วงหน้าไปก่อน ฟิชเชอร์รอเรา แต่ใจจริงอยากให้เขาไปพร้อมกับบาเทคเพราะเขาปั่นความเร็วพอ ๆ กัน พอโจคิมเปลี่ยนเรียบร้อยแล้ว เราก็ออกเดินทาง สักพักฟิชเชอร์ว่าเขาปวดท้องแถมบางครั้งอยากจะอาเจียน เหมือนท่ีบาเทคเป็นเมื่อวานนี้ แต่เขาไม่มีไข้เท่านั้นเอง ปั่นได้แต่ค่อย ๆ ไป เราไม่กล้าทิ้งเขาให้ปั่นอยู่คนเดียว เรายต้องปั่นตามความเร็วของเขา สำหรับเวชปั่นความเร็วขนาดนั้นเหมือนตอนปั่นไปเซเว่นมากกว่า วันนี้เราปั่นขึ้นเขาต่อจากเมื่อวานนี้ ยังคงขึ้นเรื่อย ๆ
เมื่อเช้ามองออกไปทางหน้าต่าง เห็นพื้นถนนชื้น ๆ ฝนตกแหมะ ๆ อากาศเย็น ๆ เสร็จเลยเรา ดันส่งเสื้อผ้าชุดกันฝนกลับบ้านไปหมดแล้ว ลองลงไปกินข้าวเช้าแล้วดูว่าอากาศเป็นยังงัย อืม..ก็ไม่ถึงกับแย่นัก!!! เรานั่งกินท่ีร้านท่ีเรากินเมื่อคืนนี้ กินเสร็จก็ซื้อไข่และซาลาเปาไปกินกลางวัน ฝนยังคงตกอยู่แต่ดีท่ีไม่มีลม บาเทคไปก่อน เราไปหาซื้อเสื้อผ้ากันหนาวและถุงเท้า ได้ถุงเท้ามาคนละคู่ กางเกงคนละตัว เสื้อฟลีซอีก 1 ตัว ซื้อได้แล้วฝนเริ่มซาดีแดดไม่ออกด้วย ถ้าเป็นอย่างนั้นคงได้คืนทุกตัวแน่ 🙂 ช่วงเช้าป่ันออกมาถนนยังเปียก ๆ แค่ตรงช่วงท่ีต้นไม้หนาตา ถ้าเป็นท่ีโล่ง ๆ พื้นแห้งแล้ว สองข้างทางดูเหมือนต้นไม้ท่ีสวีเดน ดูร่มรื่น แต่เรารีบและไม่อยากเอากล้องออกมาตอนนั้นเพราะอากาศชื้น ๆ ทางขึ้น ๆ ลง ๆ ส่วนใหญ่ลงมากกว่า พอออกจากเมือง เข้าเขตภูเขา ทางเริ่มสวย ปั่นตามแม่น้ำดาตอง ผ่านหมู่บ้านหลายแห่ง มีท่ีหนึ่งเด็กตะโกนเรียก “ฝรั่ง ๆๆ” เราปั่นไปชมวิวถ่ายรูปไป สวยทุกมุม เลือกทางได้ถูกต้องจริง ๆ วันนี้เป็นอะไรท่ีพิเศษอีกวันหนึ่ง
อีก 7-8 โลเข้าเมืองเรารอบาเทคและฟิชเชอร์ มาถึงแล้วปั่นเข้าเมืองพร้อมกัน Fisher เห็นโรงเตี้ยมหลายท่ี ถ้าเรามากันเอง คงไม่รู้ว่าท่ีไหนเป็นท่ีพักแน่นอน เราเดินเข้าไปสอบถามและดูห้องด้วยกัน เอาท่ีแรกเพราะสามารถต่อราคาได้ จากราคาคนละ 30 เป็น 20 หยวน ไม่มีห้องอาบน้ำมีแต่ห้องน้ำอยู่ข้างนอก เป็นรูท่ีพื้น แต่ดีกว่าท่ีจินตนาการไว้ ชักหิว รีบเอากระเป๋าเข้าไปเก็บท่ีห้อง แล้วตรงไปท่ีร้านอาหารเลย ฟิชเชอร์จัดการถามเจ้าของท่ีพักให้เรียบร้อยแล้วว่าร้านไหนอร่อย มีเพื่อนท่ีเป็นคนท้องถิ่นปั่นด้วยกันทำให้เราได้สัมผัสเมืองจีนในอีกแง่มุมหนึ่ง
ฤกษ์ดี!!! ตื่นเช้ามาก็ได้ปะยางอีกแล้ว คิดว่าเมื่อวานแวะเข้าข้างทางบ่อย อ๊ะ ๆ รู้นะว่าคิดอะไรอยู่ แวะถ่ายรูปค่ะ เลยโดนจิ้มด้วยลวดเพื่อนเก่าจากทางด่วน เฮ้อ…นึกว่าจะหลุดพ้นแล้วนะเนี่ย แต่เปล่า มันยังคงตามมากวนใจ บอกให้บาเทคไปก่อน เกรงใจเขาอีกอย่างเขาปั่นช้ากว่าเรา ปะเสร็จเราชวนฟิชเชอร์ไปกินอาหารเช้ากัน เขาอยากได้อาหารร้อน ๆ เราไปท่ีร้านเดิมท่ีกินมื้อเย็น แต่เขายังเตรียมไม่เสร็จเขาแนะนำให้ไปร้านก๋วยเตี๋ยวตรงหัวมุม แถมยังบอกด้วยว่าเป็นร้านเก่าแก่ เปิดมานานกว่า 20 ปีแล้ว ว้าว… คงจะเป็นการถ่ายทอดภายในครอบครัว หายากแล้วเนอะแบบนี้ เดี๋ยวนี้กลายเป็นศูนย์อาหารกันไปหมด คงจะพอมีให้เห็นบ้างตามชนบทมั้ง เราซื้อไข่ต้มขนมปังติดตัวไปด้วยเผื่อมื้อกลางวัน ส่วนใหญ่กลางวันจะกินน้อยเพราะถ้ากินมากไปคงปั่นไม่ไป จุกเสียก่อน วันนี้บรรยากาศรอบ ๆ ก็สวย แต่เรารีบอีกแล้ว เพราะวันนี้อยากให้ถึงเมืองมินเฮอ ระยะทางประมาณ 120 กม. ทางยังคงลาดลงเหมือนเมื่อวาน เราตั้งใจจะออกเร็วหน่อยแต่ยางแบนและก็อยากจะร่ำลาฟิชเชอร์ เลยออกสายเกินกว่าท่ีตั้งใจไว้ 60 โลแรกถนนดีมาก แดดยังไม่จ้าเท่าไหร่ยังพอถ่ายรูป แต่หลังจากนั้นเขาเริ่มทำถนน เป็นช่วง ๆ บางช่วงยาวบางช่วงสั้น ถนนแย่เป็นหลุมเป็นบ่อ ยังดีท่ีทางส่วนใหญ่ลาดลง ไม่อย่างนั้นแย่เลยเพราะบางครั้งรถใหญ่รถบรรทุกมากมาย ขนเอาทรายเอาหินไปท่ีก่อสร้างอีกท่ีหนึ่ง ฝุ่นตลบทั้งครึ่งวัน ระยะทางช่วงนี้มีหมู่บ้านหนาแน่นขึ้น ชาวบ้านส่วนใหญ่มองเราเหมือนตัวประหลาด มีส่วนน้อยท่ีหันมายิ้มและเชียร์เรา คงไม่เคยชินท่ีมีคนแปลกหน้าผ่านมาด้วยจักรยานขนสัมภาระเต็มคันอย่างเรา 🙂
ปั่นมาได้อีก 40 กม.จะถึงเมืองมินเฮอท่ีเราตั้งใจ เผอิญเกิดอาการหิว ขี้เกียจนั่งกินตามร้านเลยซื้อกล้วยกับลูกพลับมากินรองท้องไว้ มีรถสามล้อวิ่งอยู่ข้างหน้าเรา ช่วงทางเรียบเราแซงเขา พอทางเริ่มชันเขาก็มาแซงเรา เราทำท่าเหมือนจะพยายามเกาะท้ายรถ พวกเขาก็รีบชวนให้เกาะแถมทำไม้ทำมือชวนขึ้นรถเลยด้วย น่ารักนะเวลาท่ีเขาเล่นด้วย แต่พอทางลาดลงปุ๊บ บ๊ายบาย!! เราแซงเขาดิ่งลงมาถึงเมืองเลยมาเจอกันอีกทีตรงทางแยก เพราะเราจอดดูแผนท่ี นี่ถ้าเลี้ยวไปทางเดียวกันจะไปขอนอนท่ีบ้านเขาเลยนะเนี่ย บางช่วงปั่นกันอยู่ขอบภูเขาเลย อยากแวะถ่ายรูปแต่จราจรคับคั่งมาก แค่เราไปใช้ถนนร่วมกับเขา เขากดแตรไม่รู้เตือนหรือรำคาญ เอาเป็นว่าเตือนละกันเนอะ บางครั้งรถใหญ่กดแตรทีขี้หูเต้นระบำเลย มีครั้งหนึ่งตกใจ ดีท่ีทางตรงนี้ยังดี จากตรงนี้ยังมีอีกหลายช่วงท่ีกำลังก่อสร้าง เอ้า..ลุยกันต่อ พอถึงเมืองเราเริ่มมองหาท่ีพัก เริ่มจำตัวอักษรจีนท่ีแปลว่าโรงเตี้ยมได้บ้าง มีค่ะมีจดในกระดาษอยู่เหมือนกัน วันนี้อยากนอนท่ีดี ๆ หน่อยอยากเขียน๊อคเล่าเรื่องให้เพื่อน ๆ อ่านกัน อิอิ อยากอาบน้ำซักผ้าด้วยค่ะ 🙂 🙂 มีปัญหาเรื่องเขาไม่รับชาวต่างชาติอีกล่ะ นี่ถ้าฟิชเชอร์ไม่ปั่นไปชินหนิง (Xining) เสียก่อน เราคงไม่ต้องควานหาโรงแรมนั้นโรงแรมนี้ เพราะเราสามารถลงทะเบียนในชื่อเขาทีเดียว เอ้า..หากันต่อไป แต่ก็ยังดีนะท่ีพนักงานโรงแรมนี้รู้ว่าควรจะแนะนำเราไปท่ีไหน ปั่นไปก็ถามไป จนมาถึงจนได้
ช่วงท่ีปั่นเข้าหมินเฮอประมาณ 40 กม.แรกทางดีมาก หลังจากนั้นก็เริ่มมีการก่อสร้างถนนเป็นช่วง ๆ ถนนเฉอะแฉะ เป็นหลุมเป็นบ่อ ฝุ่นตลบ ถึงโรงแรมคุยกับเขาต่อรองราคาถามรายละเอียดจนกระทั่งขึ้นมาถึงห้องพักถึงได้เห็นหน้าตัวเองว่าดำปี๋ขนาดไหน
interesting how quickly hypoxia can sneek up on you and if you are on your own it would be difficult to realize this your self……..( in australia when flying small aircraft it is a rule that anything above 8000 ft you must have bottled oxygen in the US it is 10.000 ft ) , i presume that you guys have been above these limits now for some time….
i keep putting cold beer in the fridge waiting for you but you’re still not here , so i have to drink them myself – ohh well
We are looking forward to seeing you when you get here – not long now……….
take care
mat and jum
It will be up and down between 1500 m and 3500 m for a while now. Let’s hope we are properly acklimatized.
Good that you keep filling your fridge. Maybe you should consider buying a larger one because we’re gonna be very thirsty when we arrive to SamranJit Resort 🙂