สรุป 4 วันแรก
ตั้งแต่เลิกงานจากห้องสมุดก็ไม่ได้พักเลย เพราะเราให้คนมาเช่าห้องเราหนึ่งปี เราก็เลยต้องเก็บของใช้ของส่วนตัวขึ้นไปเก็บที่ห้องใต้หลังคา เกือบจะเหมือนกับการย้ายบ้านอย่างไรอย่างนั้นเลย เฮ้อ..ไม่ได้ย้ายบ้านมาสิบกว่าปีก็ได้ลิ้มลองรสชาติเมื่อวันเสาร์นั่นแล เวลาประมาณ 15.30 ก็ได้ฤกษ์ยื่นกุญแจให้กับคนที่มาเช่า เราปั่นไปร้านขายอุปกรณ์ Outdoor – Fjällsport (ฟเยลสปอร์ต) ที่เราไปซื้อของและขอคำแนะนำจากเขาบ่อย ๆ และอีกที่หนึ่งคือร้านจักรยาน Veloform ที่ดูคล้ายมาก ๆ กับร้าน Bok Bok Bike แถววัดโสมฯบ้านเรา หลังจากบอกลากันแล้วเราก็ปั่นไปสมทบกับเพื่อน (เอียลิน) ที่ปั่นออกมาจากบ้านมารอรับเราและคืนแรกเราค้างที่บ้านเอเลน อาหารมื้อเย็น เบียร์เย็น ๆ (สำหรับโจคิม) และนั่งเซาว์น่าต่อ เป็นการผ่อนคลายที่ดีมาก หลังจากทำงานกันมาหนัก ไม่ใช่เพราะปั่นจักรยานกันมาไกล 🙂
ส่วนวันที่สอง เอียลินปั่นไปกับเราด้วยไปหาพี่มลายู ที่เคยรู้จักกันตั้งแต่ทำงานที่แคมป์ที่พนัสนิคม เวชเคยตั้งใจหลายครั้งที่จะไปเยี่ยมพี่่ยู แต่ไม่สบโอกาสเสียที ครั้งนี้เลยได้กวนจริง ๆ พี่ยูทำอาหารไทยให้ทาน มีปลานิลย่าง พะแนง น้ำพริกปลาย่าง เวชกินตั้ง 3 จานแน่ะ 🙂 ระหว่างทางที่ปั่นไปหาพี่ยูรู้สึกหิวตลอดเวลา เพราะฉนั้นเราจึงพกเสบียงไว้ที่กระเป๋าหน้าแฮนด์ เพื่อให้ง่ายแก่การเติมพลังงาน ขอบคุณพี่ยูและครอบครัวที่ให้การต้อนรับเป็นอย่างดีค่ะ คราวหน้าจะไปรบกวนหลายวันหน่อยนะค่ะ
วันที่สาม ลาพี่ยูและเริ่มปั่นกันตอน 9 โมงเช้าไปอีกจังหวัดนึง แวะทานข้าวกลางวันกันที่ร้านพิซซ่า เคบับ กินเกือบหมดแล้วเจ้าของร้านก็เริ่มสนใจและถามว่าเราจะปั่นไปไหนกัน หลังจากที่ได้คุยได้ฟัง เขาก็บอกว่ารอก่อนนะ แล้วก็เดินไปห้องครัว ไปทำขนมปังแบบพิเศษให้ น่ารักมาก วันนี้โจคิมมีปัญหากับเบรค ธรรมดาแล้วเปลี่ยนแผ่นยางเบรคง่ายมาก แต่เราดันได้อันที่ไม่ฟิต ก็เลยอารมณ์เสีย วันนั้นชื้นมาก หิมะเปียก ตามถนนก็มีน้ำขัง ปั่นตามกันมา เสื้อผ้าเวชสกปรกและเปียกไปหมด ถึง Halmstad ก็มืดพอดี คืนนี้เราพักบ้านสมาชิกของ warmshower.org
วันที่สี่ เราออกเกือบ 9 โมงเช้า จากที่พักของ ”เอริค” เจ้าบ้านที่ต้อนรับเรา ใส่น้ำมันหล่อลื่นให้โซ่นิดหน่อย พอปั่นออกมาได้สักพักใหญ่ ๆ จักรยานโจคิมก็เริ่มมีปัญหาอีกที่ชุดเกียร์ด้านหน้า เลยต้องแก้ปัญหา โดยการถอดเกียร์ออกและเอาเทปแปะไว้ที่ท่อนั่ง ลองดูภาพที่โจคิมแปะไว้ละกันนะค่ะ วันนี้รู้สีกหนาวกว่าทุก ๆ วัน -2 องศา ลมแรงพัดมาทุกสารทิศเลย พื้นถนนก็ลื่นโดยเฉพาะทางเล็ก ๆ ปั่นแบบเกร็งมาก ๆ เมื่อยไปหมดทั้งตัว
เพื่อนที่ห้องสมุดเคยเมลย์ไปบอกวิทยุของที่สวีเดนนี่เกี่ยวกับโปรเจคของเรา เขาโทรมานัดว่าจะสัมภาษณ์เราทางมือถือ เราก็เลยต้องจอดพักหาคลื่นเพื่อที่จะคุยกับเขา แค่ 3-4 นาที สั้น ๆ เรายืนให้สัมภาษณ์ทางมือถือกลางป่า แบบหัวชิดกัน เพราะเขาอยากคุยกับเราทั้งสองคน
ตอนนี้เรามาอยู่เมืองที่โจคิมเคยทำงาน เพื่อมาเจอเพื่อน ๆ และหาซื้ออะไหล่จักรยาน เราจะพักอยู่ที่นี่จนถึงเช้าวันอาทิตย์ จะพยายามเข้ามาเขียนทุก ๆ วันนะค่ะ
วันพักผ่อน
เรามาจอดอยู่ที่บ้านเพื่อนได้สองวันละ เมื่อวานไปธุระกับเพื่อนคนไทย (อัมพร) วันนี้ไปเจอเพื่อนคนโปรตุเกต (Berta) ที่สถานีรถไฟ ตอนเวชโทรหาเขา เขาว่ากำลังจะเดินทางไปเยอตาบอย (เมืองที่เราเริ่มปั่นออกมา) ให้มันได้อย่างนี้สิ เรามาเขาไป แต่ได้เจอกันแป๊บนึงก็ยังดีเนอะ
หลังจากที่เจอเพื่อนแล้วก็ไปแบงค์ทำธุระต่อ แล้วก็เสร็จไปอีกหนึ่งอย่าง ซื้อไฟท้ายรถของเวช เพราะสงสัยว่าจะลืมไว้ที่บ้านพี่ยู 🙂 เสร็จไปสองอย่าง
ปั่นต่อจากเอลฮุลท์
วันนี้ปั่นออกจากบ้านอัมพรตอนประาณ 9 โมงเช้า ลมค่อนข้างแรง ต้านนิดหน่อย มาทางด้านข้างนิดหน่อย แต่รู้สึกปั่นสบายกว่าขามาบ้านอัมพร เพราะอาจจะเป็นทางลาดลง มีเนินเตี้ย ๆ แต่ไม่มาก เจอคนไทยที่อยู่แถว Ushult ด้วยได้คุยกันหน่อยนึงตอนจะแวะกินกลางวัน เราพักนานหน่อย เพราะเท้าชาไปหมด เหมือนถ่านที่ใส่ไว้เมื่อเช้ามันหมดตั้งแต่ 5 กม. แรก
10 กม. สุดท้ายนี้แหละ หิมะเริ่มตกและหนักขึ้นเรื่อย ๆ จนถึงบ้านเพื่อนเลย ตอนนั้นมีความรู้สึกเหมือนปั่นอยู่ใน “ของที่ระลึก” ที่เวลาจับมันเขย่าแล้วจะมีหิมะพัดหมุนเวียนอยู่ในนั้น แต่พอมาถึงบ้านเพื่อน “อุริก้า” ก็มีซุปร้อน ๆ มาต้อนรับ อร่อยมาก ลูกสาว “ทันย่า” ทำช๊อคโกแลตมูสเป็นของหวาน ส่วนนิโคไลช่วยหั่นผลไม้ทำเป็นสลัด
ปั่นสั้น ๆ เยี่ยมเพื่อน
เมื่อวานปั่นสบาย ๆ ก็จริง แต่เรารู้สึกเหนื่อย หรือเป็นเพราะพักนานเกิน 🙂
ตื่นแต่เช้าขึ้นมาเป็นเพื่อนเด็ก ๆ ตอนกินอาหารเช้า เวชไม่ได้เจอพวกเขามา 5-6 ปี ตอนนี้เวชกลายเป็นคนตัวเล็กที่สุดไป พอเด็กไปกันแล้วเราก็กลับไปพักผ่อนต่อ เพราะวันนี้เราไม่รีบและจะปั่นแค่สั้น ๆ ไปหาเพื่อนอีกคนหนึ่ง ซึ่งอยู่ห่างออกไป 40 กม. อุริก้าชอบทำขนมปัง และอบเผื่อให้เราเอาไปกินระหว่างทางด้วย โจคิมเริ่มเจ็บคอ ไอแคกๆๆ เวชยังสบายดี เมื่อยเนื้อเมื่อยตัวตามปกติ 🙂 ระยะทางที่จะมาหาอเล็กซานเดอร์เพื่อน เอ..หริอเหยื่อเรารายต่อไป 🙂 อยู่ไม่ไกลนัก แต่ทางขึ้น ๆ ลง ๆ บ่อยมาก มื้อเย็นเพื่อนทำพายให้กิน อร่อยมากเลย
แปลจากหนังสือพิมพ์
แปลแบบสรุปจากหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นของเมืองคาลสโครน่า (Karlskrona)
รถขายไปแล้ว ห้องมีคนมาเช่า
ตอนนี้โจคิมและเวชก็สามารถเริ่มเดินทางไปตามที่ฝันไว้ ซึ่งเป็นการเดินทางจากอีกบ้านหนึ่งไปอีกบ้านหนึ่ง
โจคิมและเวช จากเมืองเยอตาบอย ปั่นออกจากชายฝั่งทะเลตะวันตกเมื่อวันอังคาร ช่วงแรก ๆ พวกเขาปั่นค่อยเป็นค่อยไป และเมื่อวานนี้มาหยุดพักที่เมืองนี้ เมืองที่โจคิมเคยทำงานเพื่อแวะเยี่ยมเยียนเพื่อน ๆ
พวกเขาเป็นคู่นักปั่นที่กำลังเริ่มการเดินทางด้วยจักรยานไปเมืองไทย โดยใช้เวลา 9-10 เดือน
มีอะไรอยู่ข้างล่าง
เวชมาจากเมืองไทยและมีญาติพี่น้องอยู่ที่นั่น โจคิมเคยทำงานที่เมืองไทยและเดินทางกลับไปเยี่ยมเยียนบ่อย ๆ
– พอเราขึ้นเครื่องบินไปเมืองไทย มีคนมาเสริฟน้ำ อาหาร นอนหลับพักผ่อน ดูหนัง และพักผ่อนอีกหน่อย ตื่นขึ้นมาทานอาหารเช้า และอีกไม่นานเครื่องก็ได้เวลาแลนด์ หลายครั้งที่สงสัยว่าเราบินผ่านอะไรไปบ้าง?
ห้องสมุดที่เวชทำงานปิดซ่อมแซม เวชจึงขอลากิจ 1 ปี และโจคิมลาออกจากงานที่เมืองเอล์มฮุลท์ที่เขาขับรถไปกลับทุกเสาร์และอาทิตย์ และตัดสินใจที่จะออกเดินทางไกลกัน
หลายสิ่งหลายอย่างที่ต้องคำนึงถึง
เส้นทางที่วางไว้คือปั่นผ่านโปแลนด์ สโลวาเกีย ฮังการี โรมาเนีย บัลแกเรีย ทะลุตุรกี เข้าจอร์เจีย อาร์เมเนีย และอิหร่าน พวกเขาจะปั่นผ่านประเทศที่เคยอยู่ภายใต้รัสเซียก่อนที่จะปั่น 6000 กม.ผ่านจีน พอมาถึงลาวก็คงไม่แวะอะไรมากนอกจากอยากจะปั่นให้ถึงบ้าน
ต้องเตรียมการมากมาย วางแผนแล้วก็ต้องจัดการกับจักรยานและเอกสารมากมาย
ไม่ใช่มือใหม่
ครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่พวกเขาจะออกเดินทางโดยจักรยาน เวชเคยลาพักร้อน 1 ปี และปั่นจักรยานท่องเที่ยวในประเทศไทย เคยปั่นที่ประเทศทาจิกิสถาน และหลังจากทริปนั้นพวกเขามีอุปกรณ์ครบทุกอย่าง
ตามเส้นทางที่จะปั่นผ่านไป พวกเขาได้ติดต่อกับเน็ตเวิร์กต่าง ๆ และสามารถขอพักอาศัยนอนในช่วงที่อากาศยังหนาวเย็นอยู่ ต่อเมื่ออากาศอุ่นขึ้นพวกเขาถึงจะกางเต้นท์กัน
ที่แตกต่างจากทริปที่ทาจิกิสถานคือพวกเขามีชุดลำลองติดมาด้วย เผื่อว่าเราไปทานข้าวบ้านคนอื่น จะได้ไม่ดูเหมือนนักกีฬาเกินไปนัก
ส่วนหนึ่งที่มีในกระเป๋าคือคอมพิวเตอร์ ไอแพด และ เครื่องใช้อิเล็คโทรนิคทั้งหลาย สมัยนี้สามารถอ่านหนังสือทางไอแพด (อี-บุ๊ค) อยากอ่านหนังสืออะไรก็เข้าไปซื้อทางอินเตอร์เน็ต
พวกเราคาดว่าแต่ละวันจะปั่นประมาณ 90 -100 กม. มีคนถามพวกเราว่าปั่นจักรยานไม่เหนื่อยหรือ? แต่เราคิดว่าที่หนักที่สุดคือสภาพจิตใจมากกว่าที่จะต้องสู้เพื่อให้ถึงจุดหมาย
ติดตามการเดินทางของโจคิมและเวชที่นี่ cyclinghome.nu