เมื่อวานได้ซ่อมจักรยานและพักผ่อนด้วยเพราะเวชเริ่มรู้สึกเจ็บคอ ตอนเช้าที่บ้านเดนิซกินยาเลย ธรรมดาจะปล่อยให้มันหายเอง แต่มาเที่ยวเนอะ ต้องรีบหาย หลังจากเช๊คอินที่โรงแรมแล้ว เอากระเป๋าวางไว้ที่ห้อง เราปั่นไปร้านจักรยาน หาอยู่่ตั้งนาน คนเยอะมากด้วยเพราะเขามีแข่งฟุตบอลกัน
พอหาเจอ เวชเข็นจักรยานเข้าไปในร้าน ส่วนโจคิมจอดอยู่หน้าร้าน เพราะในร้านไม่มีที่จอด เขาก็เลยคิดว่าล๊อคแล้วจอดไว้ข้างนอกก็ได้ แต่พอกดล๊อคดังคลิ๊ก ก็นึกขึ้นได้ว่า เฮ้ย..ไม่ได้เอากุญแจมาด้วย ปวดหมองเลย คิดไปคิดมา จะนั่งรถเมล์กลับไปเอากุญแจหรือจะตัดล๊อคทิ้งแล้วซื้อใหม่ ชักขี้เกียจนั่งรถไป ๆ มา ๆ เลยคิดว่าจะตัดล๊อคทิ้งแต่ก่อนที่จะทำอะไร พอดีเจ้าของร้านซึ่งเราเริ่มสนิทกับเขา โทรมาและให้คำแนะนำว่าเอาจักรยานของที่ร้านเขาปั่นกลับไปโรงแรมแล้วพรุ่งนี้ค่อยปั่นมาเปลี่ยน เฮ้อ..โล่งอกไป ล๊อคที่มีอยู่ก็ดีกว่าที่เขามีขาย
โรงแรมที่เราพักค่อนข้างดี มีเซาว์น่า สระว่ายน้ำ ที่ออกกำลังกาย แต่ก็ไม่มีเวลาลงไปใช้ เพราะกว่าจะกลับจากร้านจักรยานก็เย็นมาก เฮ้อ..เสียดาย
เช้าวันรุ่งขึ้นเราออกปั่นไปบนเส้นทางนี้เป็นครั้งที่สามแล้ว เลยไม่ค่อยสนใจที่จะถ่ายรูปสักเท่าไหร่ อีกอย่างจราจรก็คับคั่ง อากาศเริ่มร้อนเหมือนเมืองไทย วันนี้ขึ้นเขาชันตั้ง 4 ตั้ง เมื่อยดี ประเทศตุรกีมีแต่เขา หาทางเรียบไม่ค่อยได้ ตอนที่เราปั่นขึ้นเขามาก็เห็นทะเลดำอยู่ไกล ๆ ชิเล่เป็นเมืองแรกที่ติดกับทะเลดำ ห่างจากอิสตันบูลประมาณ 70 กม. แล้วแต่ว่าอยู่ส่วนไหนของอิสตันบูลด้วย เพราะเมืองกว้าง 100 กว่ากม. ชิเล่อาจจะเปรียบเทียบกับชะอำหรือบางแสนบ้านเราที่ใกล้กรุงเทพฯ ก็ได้
เราออกสายมากเกือบบ่ายสามปั่นมาถึงชิเล่ก็มืดพอดี ห้องพักแพงเพราะเป็นเมืองตากอากาศของคนตุรกี และใกล้อิสตันบูลด้วยมั้ง แต่ก็ยังพอหาได้ ราคาแพงพอ ๆ กันกับที่โปแลนด์ เราเคยชินกับท่ีโรมาเนียและบัลแกเรียที่ราคาถูกพอใช้ เกือบได้กางเต้นท์ที่ชายหาดแล้ว ปั่นไปเจอวัยรุ่นสองคนพอดี ถามเขาว่ามีเกสเฮาส์อยู่แถวนี้มั้ย เขาบอกมีแต่ต้องขึ้นเขาไป เอ่อ..มันชันอยู่เหมือนกันเน้อ ถ้าปั่นขึ้นมีหวังยกล้อแน่ เลยเข็นกันขึ้นไป วัยรุ่นสองคนนั้นเขาคงสงสารเรา เลยเดินย้อนลงมาช่วยกันดันและเข็น ต่างคนต่างหอบ แถมยังช่วยถามคนแถวนั้นให้ช่วยติดต่อหาเจ้าของเกสเฮาส์ด้วย ใจดีจริง ๆ ที่แรกเต็มแต่เจ้าของพาเดินไปหาอีกที่หนึ่ง ก็ได้ที่นั่น คนที่นี่เขาพูดภาษาเยอรมันกันด้วยนะ ท่าทางคนเยอรมันจะมาเที่ยวกันเยอะ เพราะเห็นทางออกจากเมืองมีคำว่าลาก่อนเป็นภาษาเยอรมันด้วย ทุกทีไม่เคยเห็น
เราออกไปหาอาหารมื้อเย็นกัน และช้อปสำหรับทำกินตอนเช้า ได้ฝึกภาษา 😉 นิดหน่อย
เช้าวันรุ่งขึ้นเราต้มไข่ในห้องกินกันตอนเช้า เสร็จแล้วก็ออกเดินทางต่อ อากาศตอนเช้าค่อนข้างเย็น แต่พอโดนแดดก็อุ่น ๆ กำลังสบาย เจ้าของห้องพักแนะนำว่าอย่าไปทางเรียบทะเลดำ เพราะทางขึ้นลงเขาเพียบ เวชคิดไปเองว่าอีกทางหนึ่งเรียบละสิ หาใช่ไม่ ก็ขึ้น ๆ ลง ๆ เหมือนกันแต่อาจจะไม่โหดเท่าก็ได้มั้ง เส้นทางนี้สวยมาก ทางขึ้นเขาชัน ชมวิว มีร้านอาหารร้านกาแฟเป็นระยะ ๆ เหมือนเมืองไทยอีกแล้ว นี่ถ้ามีเวลาและงบประมาณแบบไม่อั้นละก็อยากจะแวะไปเสียทุกร้านเลย เพราะทุกที่มีเอกลักษณ์ของเขาเอง
วันนี้เราคุยกันว่าจะปั่นไม่ไกล กะว่าจะหยุดที่เมืองถัดไปคือ อัควา พอมาถึงอีก 500 เมตรก่อนจะเข้าเมืองเราแวะปั้ม ลองถามหาแผนที่ ที่เราถามทุกปั้มมาตลอดทาง แต่ก็ไม่มีขายและก็ยังไม่มีอีกเช่นเคย เวชลองถามเขาเรื่องกางเต้นท์ที่เมืองนี้ แต่คนขายของเขาไม่เข้าใจภาษาอังกฤษ พอดีมีีชายหนุ่มนักบิดมอเตอร์ไซค์เข้ามาซื้อเครื่องดื่ม เขาเข้ามาคุยด้วยและอธิบายว่าเราควรจะไปทางไหน ปรากฎว่า ไอ่น้องนี้เคยไปทำงานกับบริษัทยาที่เดนมาร์ก เคยไปเรียนที่อังกฤษ น้องชายยังเรียนอยู่ที่นั่น เราคุยกันอยู่นาน เขาแนะนำเราเรื่องอาหารว่าควรจะสั่งอะไรกินถ้าไปถึงเมืองนั้นเมืองนี้ เราคิดว่าน่าจะหาที่พักที่เมืองนี้ได้ (ถูก) ก็เลยชะล่าใจ ปรากฎอยู่ไม่ไหว รู้สึกแพงไปหน่อย เลยปั่นย้อนออกจากเมืองแวะปั้มเดิม เติมน้ำล้างหน้า ซื้ออาหารและเครื่องดื่มและปั่นต่ออีกนิดหน่อยห่างเมืองออกไป หาที่กางเต้นท์แทน เราหาที่ได้ไม่ยาก เพราะเริ่มออกมาชานเมือง ได้กางบนเนินสูง วิวสุดยอด กำลังกางเต้นท์อยู่ เห็นนกกระสาบินกลับรังเป็นฝูงใหญ่ เราอยู่สูงอยู่แล้วเลยรู้สึกว่ามันบินอยู่บนหัวเรานี่เอง
รูปสวยมากๆเลยค่ะ:) ขอให้เดินทางปลอดภัยนะค่ะพี่เวชและคุณโจคิม
ขอบคุณค่ะ ที่ตุรกีนี่สวยมากเลย มีแต่เขาขึ้นลงทั้งวัน หาทางเรียบไม่มี :-O