เมื่อคืนนอนไม่ค่อยหลับเลย เพราะมียุง ไม่รู้มันบินเข้ามาได้ยังงัย นอนเกานอนตบยุงทั้งคืน จนในที่สุด เราต้องเอาเสื้อแจ๊คเก๊ตมาใส่นอน โรงแรม อืม..ที่นี่น่าจะเรียกโรงเตี้ยมเสียมากกว่า บางแห่งในจีนไม่สามารถให้ชาวต่างชาติเข้าพัก และที่นี่น่าจะเป็นอย่างนั้นเพราะเขาไม่ลงทะเบียนชื่อเรา พอเห็นพาสปอร์ตสวีดิชก็คุยกันฉ้งเฉ้งและหันมาบอกเราว่าไม่เป็นไร ดีเหมือนกันค่ะเพราะไม่อยากแบกกระเป๋าลงมาจากชั้น 4 อีก ตอนเย็นเราคิดว่าจะกินอาหารของเขา แต่เขาชี้ให้ไปอีกฝั่งหนึ่ง ก็ดีนะ เพราะดูจากทางหน้าร้านเห็นเขาขายแต่เครื่องในและตีนไก่ ฝั่งโน้นก็ฝั่งโน้นข้ามถนนไปกัน ถนนที่นี่แปลกนะ มีเลนส์อยู่ 4 เลนส์ สองเลนส์ตรงกลางให้รถขับสวนไปสวนมา สวนสองเลนส์ข้าง่ ๆ สำหรับจักรยาน มอเตอร์ไขค์และรถม้า สองเลนส์ข้าง ๆ นี่แหละที่ต้องระวังเพราะรถมากันทั้งสองทาง ต้องหันซ้ายหันขวาอยู่หลายรอบก่อนจะก้าวเท้าออกไป
เจอคนแก่หน้ารร. เขาถามเราพยายามคุยกะเขา มีคนแก่ที่ปั่นจักรยานดูหน้าตาแกก็ช่วยพยายามด้วยเหมือนกัน แกทำปากห่อ ๆ น่าจะทำตามเรา 🙂 อีกคนนึงมายกจักรยานดูว่าหนักแค่ไหน อีกคนบอกว่าให้ปิดไฟท้าย ช่วยเหลือจริง ๆ แล้วคุณตาทั้งหลายก็ยืนคุยกันจนส่งเราออกจากโรงเตี้ยมนั้นเลย
ออกจากโรงเตี้ยมมาก็หาทางขึ้นไฮเวย์และปั่นบนไฮเวย์ทั้งวันตามลมสบาย ตั้งใจว่าจะปั่นกันสัก 190 ม. แต่โจคิมยางแบนเสียก่อน ตอนนั้นก็เริ่มจะค่ำ เลยลองเช็คดูว่ามีรร.แถวนั้นมั้ย มีห้องพักนะแต่ไม่มีน้ำแต่เขาก็ยังจะเก็บราคาเท่าเดิม เลยปั่นไปหาที่กางเต้นท์กัน เพราะที่อยากเช็คอินเข้าโรงแรมก็เพื่อต้องการอาบน้ำ แต่ถ้าไม่มีน้ำก็นอนเต้นท์ดีกว่า ถ้างั้นเราไปที่ปั้ม ไปเอาน้ำจากก๊อกน้ำเขาแล้วไปอาบที่จุดกางเต้นท์ก็ได้ พอไปถึงปั้มถึงได้เข้าใจว่าที่เขาพยายามบอกเรานั้นคือ “วันนี้น้ำไม่ไหล” เพราะที่ปั้มไหลช้ามากแต่ก็ยังมีให้ได้ลองสัก 6 ลิตร เราซื้อซิมของจีนใส่ในไอโฟนของโจคิม ทำให้เราได้กูเกิ้ลมาช่วยแปล แต่เป็นการแปลทางเดียวคือจากเรา เพราะฉนั้นเวลาเขาพูดอะไร เราจะไม่เข้าใจ ต้องใช้จินตนาการเอาละค่ะ หาที่ได้แล้วพอตั้งเต้นท์เสร็จฝนเริ่มตก
ออกจากที่กางเต้นท์ก็หันหน้าเข้าหาถนนใหญ่ทันทีเพราะต้องการทำเวลาอีกอย่างแถวนี้ก็ไม่มีอะไรน่าดู ภูมิประเทศไม่ค่อยปลี่ยนแปลงสักเท่าไหร่ อากาศสลัว ๆ แดดไม่ร้อน ช่วงนี้เลยไม่ค่อยถ่ายรูป เพราะไม่มีอะไรจริง ๆ ตามถนนไฮเวย์นี้มักจะมีจุดพักเป็นระยะ ๆ เราเลยปั่นไปหาน้ำเอาข้างหน้า แต่เกิดอาการกระหายน้ำเสียก่อนเลยพยายามสอดส่องหาช่องทางที่มีคนมาเปิดไว้ เพราะตามถนนไฮเวย์จะมีรั้วลวดหนามยาวตลอดทั้งสาย พอเห็นช่องหนึ่งที่ถูกเปิดโดยมีทรายมากองไว้เป็นภูเขา รถไม่สามารถขึ้นได้ แต่เราเดินลงไปได้ เวชเลยเดินข้ามไปซื้อน้ำที่ปั้ม พอถามเด็กที่ร้านว่ามีน้ำมั้ยเขาชี้เข้าไปในร้านแต่ไม่เห็นว่าจะมีตู้เย็นเหมือนร้านค้าทั่ว ๆ ไปแล้วเขาก็เดินตามหลังมา บอกว่ากดน้ำจากเครื่องได้เลย เอาอย่างนั้นเลยรึ? เรามีถุงน้ำติดตัวมาด้วยจุ 4 ลิตร เขาหยิบมาให้อีก 2 ขวดเล็ก ๆ จากในตู้เย็น เกรงใจเลยขอซื้อน้ำอัดลมเขามา พอจะเอาของใส่ถุง นั่น…ยังหยิบผลไม้มาให้อีก น่ารักจริง ๆ
ปั่นบนไฮเวย์ดีตรงที่เราไม่ต้องเช็คเส้นทางบ่อยและได้ระยะทาง แต่ที่ไม่ดีก็ตรงที่ห่างไกลร้านค้าเพราะฉนั้นเราต้องตุนเสบียงเล็กน้อย ช่วงนี้เราปั่นอยู่บนถนนไฮเวย์ทั้งวัน ไม่ค่อยเจอผู้คนสักเท่าไหร่ จะได้เจอและพูดคุยบ้างก็ตอนที่เรามาถึงจุดจอดพักรถ เพราะส่วนใหญ่คนแถวนั้นจะเอาอาหาร ผลไม้ ของแห้งมาขาย และน้ำด้วย เรามาแวะร้านคุณลุงคนหนึ่งซื้อน้ำและผลไม้แห้งไว้กินระหว่างทาง พอจ่ายเงินเรียบร้อย คุณลุงทำท่าว่าให้รอก่อนและเดินไปเลือกแคนตาลูปลูกขนาดย่อม ๆ มาให้เรา ขอบคุณค่ะ! แบกกันมาอีก 20 กม.กว่าจะถึงจุดจอดพักรถ ที่นั่นเขาจะมีบริการห้องน้ำ ร้านค้า ร้านอาหาร แต่พอเรามาถึง เปล่า… ยังสร้างไม่เสร็จ มีร้านอาหารง่าย ๆ และน่าจะเป็นแค่ชั่วคราวอยู่ 2 ร้าน ห้องน้ำไม่มี น้ำก็ไม่มี เราปั่นกันมาทั้งวันก็อยากอาบน้ำเลยต้องซื้อน้ำดื่มมาอาบกัน
ช่วงที่ปั่นอยู่บนไฮเวย์โจคิมยางแบนไปหลายรอบ ส่วนเวชสองครั้งและทุกครั้งจะเป็นยางหลัง ตอนแรกที่แบนคิดว่าโดนหินหรือแก้ว แต่พอสำรวจอย่างละเอียดเราพลาดไป มองไม่เห็นเจ้าเส้นลวดแข็ง ๆ จากล้อของรถใหญ่เวลาที่มันระเบิด ตัวยางนอกมันประกอบด้วยเส้นลวดแข็ง ๆ นี่และพอมันแตก เส้นลวดพวกนี้ก็กระจายเต็มพื้นถนน รถใหญ่ ๆ ก็ไม่มีปัญหา แต่เราสิ ปัญหาใหญ่เลย ปั่นได้ไม่เท่าไหร่ก็ต้องมานั่งปะยางอีกแล้ว ครั้งล่าสุดของโจคิมเราเจอเส้นลวดเส้นเล็ก ๆ นี่ 4 ชิ้นจิ้มอยู่
ดีใจจังเลยว่าอ่าน blog ของเวชได้ด้วยเพราะได้อีกมุงมองหนึ่ง!
ขอบคุณค้าบพอล!! บล๊อคนี้รู้สึกไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่ รีบเขียนไปหน่อย เอาไว้คราวหน้าจะบรรจงมากกว่านี้
สวัสดีครับ คุณพี่ทั้งสอง เกินครึ่งทางแล้วซิครับ…อิอิ
เกินครึ่งมานานแล้วจ้า อิอิ ท่ีคีร์ซกิสถาน 🙂